ที่สุดของศีลคือ?
แม่ชีเจิ้น
บทบรรยาย
แม่ชีเจิ้น
บทบรรยาย
แม่ชีเจิ้น
บทบรรยาย
แม่ชีเจิ้น
บทบรรยาย
คำว่าละอายเกรงกลัวต่อบาปเนี่ย..
มันไม่ได้เกี่ยวว่ากี่ข้อละ มันย่นย่อเข้ามาที่ เ ห ตุ คื อ ที่ ใ จ
แล้วเนื้อแท้ของศีลจริงๆคือ รั ก ษา ตั ว เ อ ง รักษาใจตัวเอง
.
ที่สุดของศีลคือ"ไ ม่ เ บี ย ด เ บี ย น ต น เ อ ง"
ไม่ใช่มีศีลแล้วเอาศีลไปเพ่งโทษคนอื่น
อันนั้นมันมีศีลแต่ปาก
เค้าพูดดีพูดถูกใจก็ไป พูดไม่ดีก็ไม่เอา เห็นมั้ย?
.
มันธรรมดามากๆ . . .
เพราะมันยังเป็นข้างนอก มันยังไม่เข้าถึงจิต
ความเป็นอธิศีลเกิดขึ้นไม่ได้หรอก
ต่อให้รักษาศีลเป็นพันข้อ มันก็ช่วยอะไรไม่ได้หรอก
เ พ ร า ะ เ ร า เ อ า อั ต ต า ไ ป ทำ
.
เพราะศีล ข้อศีลจริงๆ
มันจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมี ส ม า ธิ.. ควบคุม
มันจะมีประโยชน์อะไร
เรามีศีล แต่เราไม่เคยเห็น ค ว า ม คิ ด
ที่ไปเบียดเบียนคนอื่นเลย กูถือศีล กูดี กูดีกว่าคนอื่น กูรู้จักศีล อย่างงี้หรอ
.
ศีลจริงๆต้อง เ อ า ไ ว้ ดู ตั ว เ อ ง น ะ
ไม่ได้เอาไปวัดกับใคร อะไรที่ไม่ดี เราก็แก้ไข
มีความละอาย มีความเกรงกลัวต่อความผิด ไม่มีที่ลับที่แจ้ง
แล้วมันจะไปสั่นไหวกับอะไรละทีเนี้ย. . .
เนี่ย ธรรมมันก็อยู่ตรงนี้ มันเป็นอันเดียวกัน
.
บทสนทนาธรรม(บางช่วง)โดยแม่ชีเจิ้น
ณ วัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์
(จากไลฟ์สดวันที่ 18/06/2566)
แม่บทของศีล คือ "หิริโอตัปปะ"
คือมีความละอายเกรงกลัวต่อบาป
คำว่าละอายเกรงกลัวต่อบาปเนี่ย..
มันไม่ได้เกี่ยวว่ากี่ข้อละ มันย่นย่อเข้ามาที่ เ ห ตุ คื อ ที่ ใ จ
แล้วเนื้อแท้ของศีลจริงๆคือ รั ก ษา ตั ว เ อ ง รักษาใจตัวเอง
.
ที่สุดของศีลคือ"ไ ม่ เ บี ย ด เ บี ย น ต น เ อ ง"
ไม่ใช่มีศีลแล้วเอาศีลไปเพ่งโทษคนอื่น
อันนั้นมันมีศีลแต่ปาก
เค้าพูดดีพูดถูกใจก็ไป พูดไม่ดีก็ไม่เอา เห็นมั้ย?
.
มันธรรมดามากๆ . . .
เพราะมันยังเป็นข้างนอก มันยังไม่เข้าถึงจิต
ความเป็นอธิศีลเกิดขึ้นไม่ได้หรอก
ต่อให้รักษาศีลเป็นพันข้อ มันก็ช่วยอะไรไม่ได้หรอก
เ พ ร า ะ เ ร า เ อ า อั ต ต า ไ ป ทำ
.
เพราะศีล ข้อศีลจริงๆ
มันจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมี ส ม า ธิ.. ควบคุม
มันจะมีประโยชน์อะไร
เรามีศีล แต่เราไม่เคยเห็น ค ว า ม คิ ด
ที่ไปเบียดเบียนคนอื่นเลย กูถือศีล กูดี กูดีกว่าคนอื่น กูรู้จักศีล อย่างงี้หรอ
.
ศีลจริงๆต้อง เ อ า ไ ว้ ดู ตั ว เ อ ง น ะ
ไม่ได้เอาไปวัดกับใคร อะไรที่ไม่ดี เราก็แก้ไข
มีความละอาย มีความเกรงกลัวต่อความผิด ไม่มีที่ลับที่แจ้ง
แล้วมันจะไปสั่นไหวกับอะไรละทีเนี้ย. . .
เนี่ย ธรรมมันก็อยู่ตรงนี้ มันเป็นอันเดียวกัน
.
บทสนทนาธรรม(บางช่วง)โดยแม่ชีเจิ้น
ณ วัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์
(จากไลฟ์สดวันที่ 18/06/2566)
แม่บทของศีล คือ "หิริโอตัปปะ"
คือมีความละอายเกรงกลัวต่อบาป
คำว่าละอายเกรงกลัวต่อบาปเนี่ย..
มันไม่ได้เกี่ยวว่ากี่ข้อละ มันย่นย่อเข้ามาที่ เ ห ตุ คื อ ที่ ใ จ
แล้วเนื้อแท้ของศีลจริงๆคือ รั ก ษา ตั ว เ อ ง รักษาใจตัวเอง
.
ที่สุดของศีลคือ"ไ ม่ เ บี ย ด เ บี ย น ต น เ อ ง"
ไม่ใช่มีศีลแล้วเอาศีลไปเพ่งโทษคนอื่น
อันนั้นมันมีศีลแต่ปาก
เค้าพูดดีพูดถูกใจก็ไป พูดไม่ดีก็ไม่เอา เห็นมั้ย?
.
มันธรรมดามากๆ . . .
เพราะมันยังเป็นข้างนอก มันยังไม่เข้าถึงจิต
ความเป็นอธิศีลเกิดขึ้นไม่ได้หรอก
ต่อให้รักษาศีลเป็นพันข้อ มันก็ช่วยอะไรไม่ได้หรอก
เ พ ร า ะ เ ร า เ อ า อั ต ต า ไ ป ทำ
.
เพราะศีล ข้อศีลจริงๆ
มันจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมี ส ม า ธิ.. ควบคุม
มันจะมีประโยชน์อะไร
เรามีศีล แต่เราไม่เคยเห็น ค ว า ม คิ ด
ที่ไปเบียดเบียนคนอื่นเลย กูถือศีล กูดี กูดีกว่าคนอื่น กูรู้จักศีล อย่างงี้หรอ
.
ศีลจริงๆต้อง เ อ า ไ ว้ ดู ตั ว เ อ ง น ะ
ไม่ได้เอาไปวัดกับใคร อะไรที่ไม่ดี เราก็แก้ไข
มีความละอาย มีความเกรงกลัวต่อความผิด ไม่มีที่ลับที่แจ้ง
แล้วมันจะไปสั่นไหวกับอะไรละทีเนี้ย. . .
เนี่ย ธรรมมันก็อยู่ตรงนี้ มันเป็นอันเดียวกัน
.
บทสนทนาธรรม(บางช่วง)โดยแม่ชีเจิ้น
ณ วัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์
(จากไลฟ์สดวันที่ 18/06/2566)
แม่บทของศีล คือ "หิริโอตัปปะ"
คือมีความละอายเกรงกลัวต่อบาป
คำว่าละอายเกรงกลัวต่อบาปเนี่ย..
มันไม่ได้เกี่ยวว่ากี่ข้อละ มันย่นย่อเข้ามาที่ เ ห ตุ คื อ ที่ ใ จ
แล้วเนื้อแท้ของศีลจริงๆคือ รั ก ษา ตั ว เ อ ง รักษาใจตัวเอง
.
ที่สุดของศีลคือ"ไ ม่ เ บี ย ด เ บี ย น ต น เ อ ง"
ไม่ใช่มีศีลแล้วเอาศีลไปเพ่งโทษคนอื่น
อันนั้นมันมีศีลแต่ปาก
เค้าพูดดีพูดถูกใจก็ไป พูดไม่ดีก็ไม่เอา เห็นมั้ย?
.
มันธรรมดามากๆ . . .
เพราะมันยังเป็นข้างนอก มันยังไม่เข้าถึงจิต
ความเป็นอธิศีลเกิดขึ้นไม่ได้หรอก
ต่อให้รักษาศีลเป็นพันข้อ มันก็ช่วยอะไรไม่ได้หรอก
เ พ ร า ะ เ ร า เ อ า อั ต ต า ไ ป ทำ
.
เพราะศีล ข้อศีลจริงๆ
มันจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมี ส ม า ธิ.. ควบคุม
มันจะมีประโยชน์อะไร
เรามีศีล แต่เราไม่เคยเห็น ค ว า ม คิ ด
ที่ไปเบียดเบียนคนอื่นเลย กูถือศีล กูดี กูดีกว่าคนอื่น กูรู้จักศีล อย่างงี้หรอ
.
ศีลจริงๆต้อง เ อ า ไ ว้ ดู ตั ว เ อ ง น ะ
ไม่ได้เอาไปวัดกับใคร อะไรที่ไม่ดี เราก็แก้ไข
มีความละอาย มีความเกรงกลัวต่อความผิด ไม่มีที่ลับที่แจ้ง
แล้วมันจะไปสั่นไหวกับอะไรละทีเนี้ย. . .
เนี่ย ธรรมมันก็อยู่ตรงนี้ มันเป็นอันเดียวกัน
.
บทสนทนาธรรม(บางช่วง)โดยแม่ชีเจิ้น
ณ วัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์
(จากไลฟ์สดวันที่ 18/06/2566)
แม่บทของศีล คือ "หิริโอตัปปะ"
คือมีความละอายเกรงกลัวต่อบาป
แม่ชีเจิ้น
วัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์
แม่ชีเจิ้น แม่ชีที่มีประสบการณ์การภาวนามาอย่างโชกโชน ด้วยคำสอนที่เรียบง่าย แต่แทงลึกไปถึงก้นบึ้งของหัวใจ
แม่ชีเจิ้น
วัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์
แม่ชีเจิ้น แม่ชีที่มีประสบการณ์การภาวนามาอย่างโชกโชน ด้วยคำสอนที่เรียบง่าย แต่แทงลึกไปถึงก้นบึ้งของหัวใจ
แม่ชีเจิ้น
วัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์
แม่ชีเจิ้น แม่ชีที่มีประสบการณ์การภาวนามาอย่างโชกโชน ด้วยคำสอนที่เรียบง่าย แต่แทงลึกไปถึงก้นบึ้งของหัวใจ
แม่ชีเจิ้น
วัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์
แม่ชีเจิ้น แม่ชีที่มีประสบการณ์การภาวนามาอย่างโชกโชน ด้วยคำสอนที่เรียบง่าย แต่แทงลึกไปถึงก้นบึ้งของหัวใจ
ธรรมมะจากผู้บรรยายเดียวกัน
แม่ชีเจิ้น
นั่นแหละ ก ร ร ม
ข้อธรรมคําสอน
แม่ชีเจิ้น
นั่นแหละ ก ร ร ม
ข้อธรรมคําสอน
แม่ชีเจิ้น
นั่นแหละ ก ร ร ม
ข้อธรรมคําสอน
แม่ชีเจิ้น
เวลา..ไม่อาจรักษาทุกสิ่ง
ข้อธรรมคําสอน
แม่ชีเจิ้น
เวลา..ไม่อาจรักษาทุกสิ่ง
ข้อธรรมคําสอน
แม่ชีเจิ้น
เวลา..ไม่อาจรักษาทุกสิ่ง
ข้อธรรมคําสอน
แม่ชีเจิ้น
เพียรสร้างเหตุ
ข้อธรรมคําสอน
แม่ชีเจิ้น
เพียรสร้างเหตุ
ข้อธรรมคําสอน
แม่ชีเจิ้น
เพียรสร้างเหตุ
ข้อธรรมคําสอน
© 2024 DhammaSinkid.com
© 2024 DhammaSinkid.com
© 2024 DhammaSinkid.com
© 2024 DhammaSinkid.com