ความเหงา ความเศร้า ความว้าเหว่
แม่ชีเจิ้น
บทบรรยาย
แม่ชีเจิ้น
บทบรรยาย
แม่ชีเจิ้น
บทบรรยาย
แม่ชีเจิ้น
บทบรรยาย
ความเหงา ความเศร้า ความว้าเหว่ ไม่มีใครเข้าใจเราเลย…
ใครจะเข้าใจเรา ถ้าเราไม่ยอมเข้าใจตัวเอง
เรามาเรียนรู้ เรามารู้จักอารมณ์ มารู้จักอาการ
ไม่ได้มารู้จักชื่อมันนะ ความเหงามีลักษณะมีอาการยังไง
ลมหายใจเป็นลักษณะยังไง
เวลามันบีบคั้นกันขึ้นมา ผลทางกายมีลักษณะยังไง
ความว้าเหว่ใจมันหวิวยังไง ลักษณะของลมเป็นยังไง
เรียนรู้รายละเอียดในอารมณ์และลมไปพร้อมๆกัน
ไม่ได้ให้เข้าไปเป็นในอารมณ์ ให้รู้จัก
เมื่อใดที่มันรู้แจ่มแจ้งในอารมณ์ รู้แจ่มแจ้งในทุกข์
ไม่ต้องบอกมันวางนะ มันวางเอง
แต่ที่มันยังทุกข์อยู่เพราะ มันไม่รู้จักทุกข์
ไม่รู้จักเหตุของทุกข์ มันเลยก้าวล่วงทุกข์ไปไม่ได้
มันเป็นทางนึงที่เราต้องเดินผ่าน
มันเป็นสิ่งขึ้นมาที่ให้เรารู้ ไม่ได้ให้เราเป็นนะ
แต่เพราะกำลังที่มันมีน้อย กำลังสติ กำลังในการฝืนมันมีน้อย
ความเคยชินที่จะไหลไปในกระแสของอารมณ์มันมีมาก
มันเลยรู้สึกว่าเราทุกข์ เราเหงา เราเศร้า เราว้าเหว่
ถ้าเรามองดีๆ สังเกตตัวเองดีๆ
จิตเนี่ยมันเคยได้อารมณ์ที่มันเคยได้
“มันอยากได้อารมณ์ที่มันเคยได้”
มันเหงาเพราะ มันต้องการคนมาเอาใจ
มันว้าเหว่เพราะ มันอยู่คนเดียวไม่ได้
แต่กลับกันนะ ลองทวนกลับไปดู ตอนที่เรามีแฟน
ต่อให้เราอยู่ด้วยกัน มีเพื่อน มีแฟน มีครอบครัว
ยังไงก็ตาม ลึกๆมันก็เหงาเหมือนเดิม
เพราะสิ่งพวกนี้มันเป็นอารมณ์
มันไม่มีใครเข้าใจใครจริงๆหรอก ไม่มีทาง
เรายังทำตามอารมณ์ มันก็เป็นทาสของอารมณ์
เรารู้สึกเหงาเพราะ เราขาดเพื่อนแท้ คือ “สติ”
มันไม่มีที่พึ่ง ถ้าจะพูดถึง มันไม่มีวิหารธรรม
จิตมันไม่มีบ้าน มันไม่รู้จักที่อยู่
มันเลยแส่ส่ายหาอารมณ์ ไปตั้งอยู่ในอารมณ์
ควานหาอารมณ์ อารมณ์ไหนที่มันได้บ่อยๆ
มันคุ้นชินบ่อยๆ อารมณ์นั้นก็ขึ้นมาบ่อย
ยิ่งอารมณ์เหงา อารมณ์ว้าเหว่เนี่ย พวกเราจะเข้าใจดี
ทิ้งครอบครัวมา ทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างมา
อันดับแรกเลยมันจะบิ้วอารมณ์นี้แหละขึ้นมา
แต่ประเด็นคือเรามาฝึกเพื่อ“รู้จักมันนะ”
ไม่ได้เพื่อทำตามมัน “ไม่ได้เป็นทาสของมัน”อีกต่อไป
เมื่อใดที่เรารู้จักมัน.. .
เวลามันอินเคยเห็นไหม?
เวลามันจมลงเข้าไปในกระแสของอารมณ์
มันบิ้วตัวเองอ่ะ มันจะบิ้ว ยิ่งเศร้า ยิ่งฟังเพลงเศร้า
เคยสังเกตไหม ยิ่งร้องไห้ยิ่งนั่งส่องกระจก ร้องไห้
ถ้าสติมาทัน..มึงร้องทำไม
แต่ประเด็นคือเราพอใจในการบิ้ว
พอใจในความอินของอารมณ์
คือเราไม่พยายามตัดกระแสของอารมณ์
ความรู้สึกอะไรขึ้นมา บิ้วต่อเลย ปรุงแต่งต่อเลย
มันพาร้องไห้ก็ร้องไห้ มันพาหัวเราะก็หัวเราะ
ดูดีๆเหมือนคนบ้านะ ..
แป๊บนึงหัวเราะ แป๊บนึงร้องไห้ เราเห็นไหมล่ะ
ความกลับกลอกของจิต ทั้งๆที่เรานั่งอยู่ที่เดิม
แต่ก่อนเราเข้าใจว่าต้องอาศัยการกระทบ
ต้องอาศัยผัสสะถึงจะเกิดอารมณ์ขึ้นมา
แต่เนี่ยนั่งอยู่คนเดียว มันอาศัยอะไรล่ะ?
เป็นตัวก่ออารมณ์ขึ้นมา..เคยสังเกตไหม?
อาศัยสัญญา ความคิดระลึกไป
สัญญาน่ะผุดขึ้นมา ถ้าไม่มีกำลังสติ หรือ กำลังสมาธิ
ที่จะเบรคมันนะ มันจะปรุงแต่งเป็นเรื่องเป็นราว
ปรุงแต่งมากเข้าๆ ถึงขั้นวิปลาสได้เลยนะ
อย่าคิดว่าเป็นเรื่องเล่นๆนะ กับเรื่องจิตเรื่องใจเนี่ย
มันหนักหน่วงอยู่นะ อย่าไปทำเล่นๆกับมัน
ฝึกให้มันมั่นคงอยู่ในทาง อยู่ในมรรค
ศีล สมาธิ ปัญญา สร้างเหตุให้เต็มที่ ให้เต็มรอบ
อาศัยการประพฤติปฏิบัติให้มันมั่นคงจริงๆ
มันถึงจะผ่านทางนี้ไปได้ และ มันก็มีทางเดียวเท่านั้น
มันไม่มีทางอื่น คือ มันต้องผ่านทุกข์ มันต้องเรียนรู้ทุกข์
คำว่าทุกข์ตัวเนี่ย คือ ทุกข์ในอารมณ์นี่แหละ
มันเคยได้ แล้วมันไม่ได้ นี่แหละคือตัวทุกข์
การปฏิบัติคือทิ้งออกจากสิ่งที่เราเคยมีเคยเป็น
มันถึงต้องฝืน จนวันนึงมันๆสร้างนิสัยใหม่
มีนิสัยใหม่ อนุสัยใหม่เกิดขึ้น
จากแต่ก่อนไหล ไหลไปกับความคิดและอารมณ์
เริ่มกลับมารู้สึกตัว เริ่มรู้ละ ความรู้สึกอะไรเกิดขึ้น
ความรู้สึกผิดเกิดขึ้น ฟื้นขึ้นมา ไม่ทำ
สิ่งเดียวที่จะสู้กับความไม่ดีได้ คือ ความดี
ไม่ใช่บังคับให้มันหายจากความไม่ดี
ถ้ามันอยู่ใต้อำนาจความบังคับบัญชาของเราได้
เราไม่ได้ปฏิบัติ
ให้รู้ไว้เลยนะ อารมณ์ไม่ดีในจิตในใจเรา
อกุศลจิตที่เกิดขึ้น สิ่งเดียวที่จะแก้มันได้คือ กุศล
ไม่มีทางอื่น ไม่มีอย่างอื่นด้วย
ความอยากได้ อยากมี อยากเป็น
ความรู้สึกที่มันยึด หรือ หมายในอะไรสักอย่าง
มันจะมีความทุกข์ตามมาทันที มันจะซ่อนกันอยู่
เหมือนความรู้สึก อาการอะไรที่มันออกไปรู้ สังเกตดีๆนะ
มันจะมีมีอัตราตัวนึง รองปุ๊บ กูเป็นผู้รู้ กูรู้ ระวังดีๆ
เวลามันมีกำลังมันจะเอากลับ มันจะตีกลับ หนักหน่วงเลยนะ
คนเราเนี่ย ที่มันวิปลาสเพราะอะไร เพราะมันเชื่อ
เชื่อในสิ่งที่มันรู้มันเห็น เพราะมันลืมฐาน ลืมลม ขาดสติไป
ติดอยู่ในวังวนของอารมณ์ เอาอารมณ์เป็นตัวดำเนินทีเนี้ย
หลุดไปเลย ถ้าเป็นอย่างนี้ เอาคืนยากมากนะ .. .
#แม่ชีเจิ้น #แม่ชีเจิ้นลูกพระสิ้นคิด
#วัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์
หรือรับฟังได้ที่
https://spotify.link/Dei7yXQyCDb
ความเหงา ความเศร้า ความว้าเหว่ ไม่มีใครเข้าใจเราเลย…
ใครจะเข้าใจเรา ถ้าเราไม่ยอมเข้าใจตัวเอง
เรามาเรียนรู้ เรามารู้จักอารมณ์ มารู้จักอาการ
ไม่ได้มารู้จักชื่อมันนะ ความเหงามีลักษณะมีอาการยังไง
ลมหายใจเป็นลักษณะยังไง
เวลามันบีบคั้นกันขึ้นมา ผลทางกายมีลักษณะยังไง
ความว้าเหว่ใจมันหวิวยังไง ลักษณะของลมเป็นยังไง
เรียนรู้รายละเอียดในอารมณ์และลมไปพร้อมๆกัน
ไม่ได้ให้เข้าไปเป็นในอารมณ์ ให้รู้จัก
เมื่อใดที่มันรู้แจ่มแจ้งในอารมณ์ รู้แจ่มแจ้งในทุกข์
ไม่ต้องบอกมันวางนะ มันวางเอง
แต่ที่มันยังทุกข์อยู่เพราะ มันไม่รู้จักทุกข์
ไม่รู้จักเหตุของทุกข์ มันเลยก้าวล่วงทุกข์ไปไม่ได้
มันเป็นทางนึงที่เราต้องเดินผ่าน
มันเป็นสิ่งขึ้นมาที่ให้เรารู้ ไม่ได้ให้เราเป็นนะ
แต่เพราะกำลังที่มันมีน้อย กำลังสติ กำลังในการฝืนมันมีน้อย
ความเคยชินที่จะไหลไปในกระแสของอารมณ์มันมีมาก
มันเลยรู้สึกว่าเราทุกข์ เราเหงา เราเศร้า เราว้าเหว่
ถ้าเรามองดีๆ สังเกตตัวเองดีๆ
จิตเนี่ยมันเคยได้อารมณ์ที่มันเคยได้
“มันอยากได้อารมณ์ที่มันเคยได้”
มันเหงาเพราะ มันต้องการคนมาเอาใจ
มันว้าเหว่เพราะ มันอยู่คนเดียวไม่ได้
แต่กลับกันนะ ลองทวนกลับไปดู ตอนที่เรามีแฟน
ต่อให้เราอยู่ด้วยกัน มีเพื่อน มีแฟน มีครอบครัว
ยังไงก็ตาม ลึกๆมันก็เหงาเหมือนเดิม
เพราะสิ่งพวกนี้มันเป็นอารมณ์
มันไม่มีใครเข้าใจใครจริงๆหรอก ไม่มีทาง
เรายังทำตามอารมณ์ มันก็เป็นทาสของอารมณ์
เรารู้สึกเหงาเพราะ เราขาดเพื่อนแท้ คือ “สติ”
มันไม่มีที่พึ่ง ถ้าจะพูดถึง มันไม่มีวิหารธรรม
จิตมันไม่มีบ้าน มันไม่รู้จักที่อยู่
มันเลยแส่ส่ายหาอารมณ์ ไปตั้งอยู่ในอารมณ์
ควานหาอารมณ์ อารมณ์ไหนที่มันได้บ่อยๆ
มันคุ้นชินบ่อยๆ อารมณ์นั้นก็ขึ้นมาบ่อย
ยิ่งอารมณ์เหงา อารมณ์ว้าเหว่เนี่ย พวกเราจะเข้าใจดี
ทิ้งครอบครัวมา ทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างมา
อันดับแรกเลยมันจะบิ้วอารมณ์นี้แหละขึ้นมา
แต่ประเด็นคือเรามาฝึกเพื่อ“รู้จักมันนะ”
ไม่ได้เพื่อทำตามมัน “ไม่ได้เป็นทาสของมัน”อีกต่อไป
เมื่อใดที่เรารู้จักมัน.. .
เวลามันอินเคยเห็นไหม?
เวลามันจมลงเข้าไปในกระแสของอารมณ์
มันบิ้วตัวเองอ่ะ มันจะบิ้ว ยิ่งเศร้า ยิ่งฟังเพลงเศร้า
เคยสังเกตไหม ยิ่งร้องไห้ยิ่งนั่งส่องกระจก ร้องไห้
ถ้าสติมาทัน..มึงร้องทำไม
แต่ประเด็นคือเราพอใจในการบิ้ว
พอใจในความอินของอารมณ์
คือเราไม่พยายามตัดกระแสของอารมณ์
ความรู้สึกอะไรขึ้นมา บิ้วต่อเลย ปรุงแต่งต่อเลย
มันพาร้องไห้ก็ร้องไห้ มันพาหัวเราะก็หัวเราะ
ดูดีๆเหมือนคนบ้านะ ..
แป๊บนึงหัวเราะ แป๊บนึงร้องไห้ เราเห็นไหมล่ะ
ความกลับกลอกของจิต ทั้งๆที่เรานั่งอยู่ที่เดิม
แต่ก่อนเราเข้าใจว่าต้องอาศัยการกระทบ
ต้องอาศัยผัสสะถึงจะเกิดอารมณ์ขึ้นมา
แต่เนี่ยนั่งอยู่คนเดียว มันอาศัยอะไรล่ะ?
เป็นตัวก่ออารมณ์ขึ้นมา..เคยสังเกตไหม?
อาศัยสัญญา ความคิดระลึกไป
สัญญาน่ะผุดขึ้นมา ถ้าไม่มีกำลังสติ หรือ กำลังสมาธิ
ที่จะเบรคมันนะ มันจะปรุงแต่งเป็นเรื่องเป็นราว
ปรุงแต่งมากเข้าๆ ถึงขั้นวิปลาสได้เลยนะ
อย่าคิดว่าเป็นเรื่องเล่นๆนะ กับเรื่องจิตเรื่องใจเนี่ย
มันหนักหน่วงอยู่นะ อย่าไปทำเล่นๆกับมัน
ฝึกให้มันมั่นคงอยู่ในทาง อยู่ในมรรค
ศีล สมาธิ ปัญญา สร้างเหตุให้เต็มที่ ให้เต็มรอบ
อาศัยการประพฤติปฏิบัติให้มันมั่นคงจริงๆ
มันถึงจะผ่านทางนี้ไปได้ และ มันก็มีทางเดียวเท่านั้น
มันไม่มีทางอื่น คือ มันต้องผ่านทุกข์ มันต้องเรียนรู้ทุกข์
คำว่าทุกข์ตัวเนี่ย คือ ทุกข์ในอารมณ์นี่แหละ
มันเคยได้ แล้วมันไม่ได้ นี่แหละคือตัวทุกข์
การปฏิบัติคือทิ้งออกจากสิ่งที่เราเคยมีเคยเป็น
มันถึงต้องฝืน จนวันนึงมันๆสร้างนิสัยใหม่
มีนิสัยใหม่ อนุสัยใหม่เกิดขึ้น
จากแต่ก่อนไหล ไหลไปกับความคิดและอารมณ์
เริ่มกลับมารู้สึกตัว เริ่มรู้ละ ความรู้สึกอะไรเกิดขึ้น
ความรู้สึกผิดเกิดขึ้น ฟื้นขึ้นมา ไม่ทำ
สิ่งเดียวที่จะสู้กับความไม่ดีได้ คือ ความดี
ไม่ใช่บังคับให้มันหายจากความไม่ดี
ถ้ามันอยู่ใต้อำนาจความบังคับบัญชาของเราได้
เราไม่ได้ปฏิบัติ
ให้รู้ไว้เลยนะ อารมณ์ไม่ดีในจิตในใจเรา
อกุศลจิตที่เกิดขึ้น สิ่งเดียวที่จะแก้มันได้คือ กุศล
ไม่มีทางอื่น ไม่มีอย่างอื่นด้วย
ความอยากได้ อยากมี อยากเป็น
ความรู้สึกที่มันยึด หรือ หมายในอะไรสักอย่าง
มันจะมีความทุกข์ตามมาทันที มันจะซ่อนกันอยู่
เหมือนความรู้สึก อาการอะไรที่มันออกไปรู้ สังเกตดีๆนะ
มันจะมีมีอัตราตัวนึง รองปุ๊บ กูเป็นผู้รู้ กูรู้ ระวังดีๆ
เวลามันมีกำลังมันจะเอากลับ มันจะตีกลับ หนักหน่วงเลยนะ
คนเราเนี่ย ที่มันวิปลาสเพราะอะไร เพราะมันเชื่อ
เชื่อในสิ่งที่มันรู้มันเห็น เพราะมันลืมฐาน ลืมลม ขาดสติไป
ติดอยู่ในวังวนของอารมณ์ เอาอารมณ์เป็นตัวดำเนินทีเนี้ย
หลุดไปเลย ถ้าเป็นอย่างนี้ เอาคืนยากมากนะ .. .
#แม่ชีเจิ้น #แม่ชีเจิ้นลูกพระสิ้นคิด
#วัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์
หรือรับฟังได้ที่
https://spotify.link/Dei7yXQyCDb
ความเหงา ความเศร้า ความว้าเหว่ ไม่มีใครเข้าใจเราเลย…
ใครจะเข้าใจเรา ถ้าเราไม่ยอมเข้าใจตัวเอง
เรามาเรียนรู้ เรามารู้จักอารมณ์ มารู้จักอาการ
ไม่ได้มารู้จักชื่อมันนะ ความเหงามีลักษณะมีอาการยังไง
ลมหายใจเป็นลักษณะยังไง
เวลามันบีบคั้นกันขึ้นมา ผลทางกายมีลักษณะยังไง
ความว้าเหว่ใจมันหวิวยังไง ลักษณะของลมเป็นยังไง
เรียนรู้รายละเอียดในอารมณ์และลมไปพร้อมๆกัน
ไม่ได้ให้เข้าไปเป็นในอารมณ์ ให้รู้จัก
เมื่อใดที่มันรู้แจ่มแจ้งในอารมณ์ รู้แจ่มแจ้งในทุกข์
ไม่ต้องบอกมันวางนะ มันวางเอง
แต่ที่มันยังทุกข์อยู่เพราะ มันไม่รู้จักทุกข์
ไม่รู้จักเหตุของทุกข์ มันเลยก้าวล่วงทุกข์ไปไม่ได้
มันเป็นทางนึงที่เราต้องเดินผ่าน
มันเป็นสิ่งขึ้นมาที่ให้เรารู้ ไม่ได้ให้เราเป็นนะ
แต่เพราะกำลังที่มันมีน้อย กำลังสติ กำลังในการฝืนมันมีน้อย
ความเคยชินที่จะไหลไปในกระแสของอารมณ์มันมีมาก
มันเลยรู้สึกว่าเราทุกข์ เราเหงา เราเศร้า เราว้าเหว่
ถ้าเรามองดีๆ สังเกตตัวเองดีๆ
จิตเนี่ยมันเคยได้อารมณ์ที่มันเคยได้
“มันอยากได้อารมณ์ที่มันเคยได้”
มันเหงาเพราะ มันต้องการคนมาเอาใจ
มันว้าเหว่เพราะ มันอยู่คนเดียวไม่ได้
แต่กลับกันนะ ลองทวนกลับไปดู ตอนที่เรามีแฟน
ต่อให้เราอยู่ด้วยกัน มีเพื่อน มีแฟน มีครอบครัว
ยังไงก็ตาม ลึกๆมันก็เหงาเหมือนเดิม
เพราะสิ่งพวกนี้มันเป็นอารมณ์
มันไม่มีใครเข้าใจใครจริงๆหรอก ไม่มีทาง
เรายังทำตามอารมณ์ มันก็เป็นทาสของอารมณ์
เรารู้สึกเหงาเพราะ เราขาดเพื่อนแท้ คือ “สติ”
มันไม่มีที่พึ่ง ถ้าจะพูดถึง มันไม่มีวิหารธรรม
จิตมันไม่มีบ้าน มันไม่รู้จักที่อยู่
มันเลยแส่ส่ายหาอารมณ์ ไปตั้งอยู่ในอารมณ์
ควานหาอารมณ์ อารมณ์ไหนที่มันได้บ่อยๆ
มันคุ้นชินบ่อยๆ อารมณ์นั้นก็ขึ้นมาบ่อย
ยิ่งอารมณ์เหงา อารมณ์ว้าเหว่เนี่ย พวกเราจะเข้าใจดี
ทิ้งครอบครัวมา ทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างมา
อันดับแรกเลยมันจะบิ้วอารมณ์นี้แหละขึ้นมา
แต่ประเด็นคือเรามาฝึกเพื่อ“รู้จักมันนะ”
ไม่ได้เพื่อทำตามมัน “ไม่ได้เป็นทาสของมัน”อีกต่อไป
เมื่อใดที่เรารู้จักมัน.. .
เวลามันอินเคยเห็นไหม?
เวลามันจมลงเข้าไปในกระแสของอารมณ์
มันบิ้วตัวเองอ่ะ มันจะบิ้ว ยิ่งเศร้า ยิ่งฟังเพลงเศร้า
เคยสังเกตไหม ยิ่งร้องไห้ยิ่งนั่งส่องกระจก ร้องไห้
ถ้าสติมาทัน..มึงร้องทำไม
แต่ประเด็นคือเราพอใจในการบิ้ว
พอใจในความอินของอารมณ์
คือเราไม่พยายามตัดกระแสของอารมณ์
ความรู้สึกอะไรขึ้นมา บิ้วต่อเลย ปรุงแต่งต่อเลย
มันพาร้องไห้ก็ร้องไห้ มันพาหัวเราะก็หัวเราะ
ดูดีๆเหมือนคนบ้านะ ..
แป๊บนึงหัวเราะ แป๊บนึงร้องไห้ เราเห็นไหมล่ะ
ความกลับกลอกของจิต ทั้งๆที่เรานั่งอยู่ที่เดิม
แต่ก่อนเราเข้าใจว่าต้องอาศัยการกระทบ
ต้องอาศัยผัสสะถึงจะเกิดอารมณ์ขึ้นมา
แต่เนี่ยนั่งอยู่คนเดียว มันอาศัยอะไรล่ะ?
เป็นตัวก่ออารมณ์ขึ้นมา..เคยสังเกตไหม?
อาศัยสัญญา ความคิดระลึกไป
สัญญาน่ะผุดขึ้นมา ถ้าไม่มีกำลังสติ หรือ กำลังสมาธิ
ที่จะเบรคมันนะ มันจะปรุงแต่งเป็นเรื่องเป็นราว
ปรุงแต่งมากเข้าๆ ถึงขั้นวิปลาสได้เลยนะ
อย่าคิดว่าเป็นเรื่องเล่นๆนะ กับเรื่องจิตเรื่องใจเนี่ย
มันหนักหน่วงอยู่นะ อย่าไปทำเล่นๆกับมัน
ฝึกให้มันมั่นคงอยู่ในทาง อยู่ในมรรค
ศีล สมาธิ ปัญญา สร้างเหตุให้เต็มที่ ให้เต็มรอบ
อาศัยการประพฤติปฏิบัติให้มันมั่นคงจริงๆ
มันถึงจะผ่านทางนี้ไปได้ และ มันก็มีทางเดียวเท่านั้น
มันไม่มีทางอื่น คือ มันต้องผ่านทุกข์ มันต้องเรียนรู้ทุกข์
คำว่าทุกข์ตัวเนี่ย คือ ทุกข์ในอารมณ์นี่แหละ
มันเคยได้ แล้วมันไม่ได้ นี่แหละคือตัวทุกข์
การปฏิบัติคือทิ้งออกจากสิ่งที่เราเคยมีเคยเป็น
มันถึงต้องฝืน จนวันนึงมันๆสร้างนิสัยใหม่
มีนิสัยใหม่ อนุสัยใหม่เกิดขึ้น
จากแต่ก่อนไหล ไหลไปกับความคิดและอารมณ์
เริ่มกลับมารู้สึกตัว เริ่มรู้ละ ความรู้สึกอะไรเกิดขึ้น
ความรู้สึกผิดเกิดขึ้น ฟื้นขึ้นมา ไม่ทำ
สิ่งเดียวที่จะสู้กับความไม่ดีได้ คือ ความดี
ไม่ใช่บังคับให้มันหายจากความไม่ดี
ถ้ามันอยู่ใต้อำนาจความบังคับบัญชาของเราได้
เราไม่ได้ปฏิบัติ
ให้รู้ไว้เลยนะ อารมณ์ไม่ดีในจิตในใจเรา
อกุศลจิตที่เกิดขึ้น สิ่งเดียวที่จะแก้มันได้คือ กุศล
ไม่มีทางอื่น ไม่มีอย่างอื่นด้วย
ความอยากได้ อยากมี อยากเป็น
ความรู้สึกที่มันยึด หรือ หมายในอะไรสักอย่าง
มันจะมีความทุกข์ตามมาทันที มันจะซ่อนกันอยู่
เหมือนความรู้สึก อาการอะไรที่มันออกไปรู้ สังเกตดีๆนะ
มันจะมีมีอัตราตัวนึง รองปุ๊บ กูเป็นผู้รู้ กูรู้ ระวังดีๆ
เวลามันมีกำลังมันจะเอากลับ มันจะตีกลับ หนักหน่วงเลยนะ
คนเราเนี่ย ที่มันวิปลาสเพราะอะไร เพราะมันเชื่อ
เชื่อในสิ่งที่มันรู้มันเห็น เพราะมันลืมฐาน ลืมลม ขาดสติไป
ติดอยู่ในวังวนของอารมณ์ เอาอารมณ์เป็นตัวดำเนินทีเนี้ย
หลุดไปเลย ถ้าเป็นอย่างนี้ เอาคืนยากมากนะ .. .
#แม่ชีเจิ้น #แม่ชีเจิ้นลูกพระสิ้นคิด
#วัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์
หรือรับฟังได้ที่
https://spotify.link/Dei7yXQyCDb
ความเหงา ความเศร้า ความว้าเหว่ ไม่มีใครเข้าใจเราเลย…
ใครจะเข้าใจเรา ถ้าเราไม่ยอมเข้าใจตัวเอง
เรามาเรียนรู้ เรามารู้จักอารมณ์ มารู้จักอาการ
ไม่ได้มารู้จักชื่อมันนะ ความเหงามีลักษณะมีอาการยังไง
ลมหายใจเป็นลักษณะยังไง
เวลามันบีบคั้นกันขึ้นมา ผลทางกายมีลักษณะยังไง
ความว้าเหว่ใจมันหวิวยังไง ลักษณะของลมเป็นยังไง
เรียนรู้รายละเอียดในอารมณ์และลมไปพร้อมๆกัน
ไม่ได้ให้เข้าไปเป็นในอารมณ์ ให้รู้จัก
เมื่อใดที่มันรู้แจ่มแจ้งในอารมณ์ รู้แจ่มแจ้งในทุกข์
ไม่ต้องบอกมันวางนะ มันวางเอง
แต่ที่มันยังทุกข์อยู่เพราะ มันไม่รู้จักทุกข์
ไม่รู้จักเหตุของทุกข์ มันเลยก้าวล่วงทุกข์ไปไม่ได้
มันเป็นทางนึงที่เราต้องเดินผ่าน
มันเป็นสิ่งขึ้นมาที่ให้เรารู้ ไม่ได้ให้เราเป็นนะ
แต่เพราะกำลังที่มันมีน้อย กำลังสติ กำลังในการฝืนมันมีน้อย
ความเคยชินที่จะไหลไปในกระแสของอารมณ์มันมีมาก
มันเลยรู้สึกว่าเราทุกข์ เราเหงา เราเศร้า เราว้าเหว่
ถ้าเรามองดีๆ สังเกตตัวเองดีๆ
จิตเนี่ยมันเคยได้อารมณ์ที่มันเคยได้
“มันอยากได้อารมณ์ที่มันเคยได้”
มันเหงาเพราะ มันต้องการคนมาเอาใจ
มันว้าเหว่เพราะ มันอยู่คนเดียวไม่ได้
แต่กลับกันนะ ลองทวนกลับไปดู ตอนที่เรามีแฟน
ต่อให้เราอยู่ด้วยกัน มีเพื่อน มีแฟน มีครอบครัว
ยังไงก็ตาม ลึกๆมันก็เหงาเหมือนเดิม
เพราะสิ่งพวกนี้มันเป็นอารมณ์
มันไม่มีใครเข้าใจใครจริงๆหรอก ไม่มีทาง
เรายังทำตามอารมณ์ มันก็เป็นทาสของอารมณ์
เรารู้สึกเหงาเพราะ เราขาดเพื่อนแท้ คือ “สติ”
มันไม่มีที่พึ่ง ถ้าจะพูดถึง มันไม่มีวิหารธรรม
จิตมันไม่มีบ้าน มันไม่รู้จักที่อยู่
มันเลยแส่ส่ายหาอารมณ์ ไปตั้งอยู่ในอารมณ์
ควานหาอารมณ์ อารมณ์ไหนที่มันได้บ่อยๆ
มันคุ้นชินบ่อยๆ อารมณ์นั้นก็ขึ้นมาบ่อย
ยิ่งอารมณ์เหงา อารมณ์ว้าเหว่เนี่ย พวกเราจะเข้าใจดี
ทิ้งครอบครัวมา ทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างมา
อันดับแรกเลยมันจะบิ้วอารมณ์นี้แหละขึ้นมา
แต่ประเด็นคือเรามาฝึกเพื่อ“รู้จักมันนะ”
ไม่ได้เพื่อทำตามมัน “ไม่ได้เป็นทาสของมัน”อีกต่อไป
เมื่อใดที่เรารู้จักมัน.. .
เวลามันอินเคยเห็นไหม?
เวลามันจมลงเข้าไปในกระแสของอารมณ์
มันบิ้วตัวเองอ่ะ มันจะบิ้ว ยิ่งเศร้า ยิ่งฟังเพลงเศร้า
เคยสังเกตไหม ยิ่งร้องไห้ยิ่งนั่งส่องกระจก ร้องไห้
ถ้าสติมาทัน..มึงร้องทำไม
แต่ประเด็นคือเราพอใจในการบิ้ว
พอใจในความอินของอารมณ์
คือเราไม่พยายามตัดกระแสของอารมณ์
ความรู้สึกอะไรขึ้นมา บิ้วต่อเลย ปรุงแต่งต่อเลย
มันพาร้องไห้ก็ร้องไห้ มันพาหัวเราะก็หัวเราะ
ดูดีๆเหมือนคนบ้านะ ..
แป๊บนึงหัวเราะ แป๊บนึงร้องไห้ เราเห็นไหมล่ะ
ความกลับกลอกของจิต ทั้งๆที่เรานั่งอยู่ที่เดิม
แต่ก่อนเราเข้าใจว่าต้องอาศัยการกระทบ
ต้องอาศัยผัสสะถึงจะเกิดอารมณ์ขึ้นมา
แต่เนี่ยนั่งอยู่คนเดียว มันอาศัยอะไรล่ะ?
เป็นตัวก่ออารมณ์ขึ้นมา..เคยสังเกตไหม?
อาศัยสัญญา ความคิดระลึกไป
สัญญาน่ะผุดขึ้นมา ถ้าไม่มีกำลังสติ หรือ กำลังสมาธิ
ที่จะเบรคมันนะ มันจะปรุงแต่งเป็นเรื่องเป็นราว
ปรุงแต่งมากเข้าๆ ถึงขั้นวิปลาสได้เลยนะ
อย่าคิดว่าเป็นเรื่องเล่นๆนะ กับเรื่องจิตเรื่องใจเนี่ย
มันหนักหน่วงอยู่นะ อย่าไปทำเล่นๆกับมัน
ฝึกให้มันมั่นคงอยู่ในทาง อยู่ในมรรค
ศีล สมาธิ ปัญญา สร้างเหตุให้เต็มที่ ให้เต็มรอบ
อาศัยการประพฤติปฏิบัติให้มันมั่นคงจริงๆ
มันถึงจะผ่านทางนี้ไปได้ และ มันก็มีทางเดียวเท่านั้น
มันไม่มีทางอื่น คือ มันต้องผ่านทุกข์ มันต้องเรียนรู้ทุกข์
คำว่าทุกข์ตัวเนี่ย คือ ทุกข์ในอารมณ์นี่แหละ
มันเคยได้ แล้วมันไม่ได้ นี่แหละคือตัวทุกข์
การปฏิบัติคือทิ้งออกจากสิ่งที่เราเคยมีเคยเป็น
มันถึงต้องฝืน จนวันนึงมันๆสร้างนิสัยใหม่
มีนิสัยใหม่ อนุสัยใหม่เกิดขึ้น
จากแต่ก่อนไหล ไหลไปกับความคิดและอารมณ์
เริ่มกลับมารู้สึกตัว เริ่มรู้ละ ความรู้สึกอะไรเกิดขึ้น
ความรู้สึกผิดเกิดขึ้น ฟื้นขึ้นมา ไม่ทำ
สิ่งเดียวที่จะสู้กับความไม่ดีได้ คือ ความดี
ไม่ใช่บังคับให้มันหายจากความไม่ดี
ถ้ามันอยู่ใต้อำนาจความบังคับบัญชาของเราได้
เราไม่ได้ปฏิบัติ
ให้รู้ไว้เลยนะ อารมณ์ไม่ดีในจิตในใจเรา
อกุศลจิตที่เกิดขึ้น สิ่งเดียวที่จะแก้มันได้คือ กุศล
ไม่มีทางอื่น ไม่มีอย่างอื่นด้วย
ความอยากได้ อยากมี อยากเป็น
ความรู้สึกที่มันยึด หรือ หมายในอะไรสักอย่าง
มันจะมีความทุกข์ตามมาทันที มันจะซ่อนกันอยู่
เหมือนความรู้สึก อาการอะไรที่มันออกไปรู้ สังเกตดีๆนะ
มันจะมีมีอัตราตัวนึง รองปุ๊บ กูเป็นผู้รู้ กูรู้ ระวังดีๆ
เวลามันมีกำลังมันจะเอากลับ มันจะตีกลับ หนักหน่วงเลยนะ
คนเราเนี่ย ที่มันวิปลาสเพราะอะไร เพราะมันเชื่อ
เชื่อในสิ่งที่มันรู้มันเห็น เพราะมันลืมฐาน ลืมลม ขาดสติไป
ติดอยู่ในวังวนของอารมณ์ เอาอารมณ์เป็นตัวดำเนินทีเนี้ย
หลุดไปเลย ถ้าเป็นอย่างนี้ เอาคืนยากมากนะ .. .
#แม่ชีเจิ้น #แม่ชีเจิ้นลูกพระสิ้นคิด
#วัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์
หรือรับฟังได้ที่
https://spotify.link/Dei7yXQyCDb
แม่ชีเจิ้น
วัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์
แม่ชีเจิ้น แม่ชีที่มีประสบการณ์การภาวนามาอย่างโชกโชน ด้วยคำสอนที่เรียบง่าย แต่แทงลึกไปถึงก้นบึ้งของหัวใจ
แม่ชีเจิ้น
วัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์
แม่ชีเจิ้น แม่ชีที่มีประสบการณ์การภาวนามาอย่างโชกโชน ด้วยคำสอนที่เรียบง่าย แต่แทงลึกไปถึงก้นบึ้งของหัวใจ
แม่ชีเจิ้น
วัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์
แม่ชีเจิ้น แม่ชีที่มีประสบการณ์การภาวนามาอย่างโชกโชน ด้วยคำสอนที่เรียบง่าย แต่แทงลึกไปถึงก้นบึ้งของหัวใจ
แม่ชีเจิ้น
วัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์
แม่ชีเจิ้น แม่ชีที่มีประสบการณ์การภาวนามาอย่างโชกโชน ด้วยคำสอนที่เรียบง่าย แต่แทงลึกไปถึงก้นบึ้งของหัวใจ
ธรรมมะจากผู้บรรยายเดียวกัน
แม่ชีเจิ้น
ที่สุดของศีลคือ?
บทบรรยาย
แม่ชีเจิ้น
ที่สุดของศีลคือ?
บทบรรยาย
แม่ชีเจิ้น
ที่สุดของศีลคือ?
บทบรรยาย
แม่ชีเจิ้น
นั่นแหละ ก ร ร ม
ข้อธรรมคําสอน
แม่ชีเจิ้น
นั่นแหละ ก ร ร ม
ข้อธรรมคําสอน
แม่ชีเจิ้น
นั่นแหละ ก ร ร ม
ข้อธรรมคําสอน
แม่ชีเจิ้น
เวลา..ไม่อาจรักษาทุกสิ่ง
ข้อธรรมคําสอน
แม่ชีเจิ้น
เวลา..ไม่อาจรักษาทุกสิ่ง
ข้อธรรมคําสอน
แม่ชีเจิ้น
เวลา..ไม่อาจรักษาทุกสิ่ง
ข้อธรรมคําสอน
© 2024 DhammaSinkid.com
© 2024 DhammaSinkid.com
© 2024 DhammaSinkid.com
© 2024 DhammaSinkid.com