พระธรรมวินัย เป็นเครื่องรักษาตัวเอง

ครูบาฉ่าย

บทบรรยาย

ครูบาฉ่าย

บทบรรยาย

ครูบาฉ่าย

บทบรรยาย

ครูบาฉ่าย

บทบรรยาย

พระธรรมวินัย ศีล ทำให้เรารู้สึกว่าเป็นพระ
พระธรรมวินัย ทำให้ใจนี้เป็นอิสระ
จากความกังวล เมื่อเข้าถึงกรรมดี เมื่อจิต มีความดี
มีกรรมดี เป็นเครื่องอาศัย จิตก็พ้นจากอกุศล
การเดิน การอยู่ การเป็น การไป จึงบริสุทธิ์


เพราะอะไร.. "เ พ ร า ะ ค ว า ม ดี" นั้นแหละ
คือเครื่องอยู่ของพระ จึงไม่กลัว ไม่มีความกลัว
ไม่มีความระแวง มีแต่ความจริง
เพราะปฏิบัติตามธรรมวินัย มีศีลเป็นเครื่องรองรับ

ธรรมชาติของศีลนั้น บริสุทธิ์ล้วนๆ
แต่ผู้จะปฏิบัติให้เข้าถึงความบริสุทธิ์นั้น
ปฏิบัติได้แค่ไหน ถ้าบุคคลใดปฏิบัติเข้าถึงความบริสุทธิ์
ตามแห่งศีลแล้ว ใจก็เข้าถึงความบริสุทธิ์ได้เช่นกัน
จะไม่มีความกังวล ไม่กังวลว่าตัวเองนี้ผิด ทำผิด
เพราะความดีเป็นสมบัติของใจ


เรามีความดี มีศีล มีพระธรรมวินัย เป็นสมบัติของใจ
และเชื่อมั่นในพระพุทธเจ้าด้วย
เชื่อมันในเรื่องของ ก ร ร ม นั้นแหละ
ในเมื่อเราเป็นผู้ปฏิบัติกรรมดี อยู่ในกุศลกรรมย่อมปิดนรก
นรกนั้นมีจริง ต่อให้ยังไม่รู้ก็ตามว่า นรกนั้นมีหรือไม่มี
เพราะเหตุที่จะไปสู่โลกที่ชั่วนั้นไม่มี เรียกว่า อกุศลนั้นไม่เกิด
จิต มุ่งไปสู่กุศลเพียงอย่างเดียว การเป็นอยู่จึงอาจหาญ
นั้นจึงเป็นเครื่องอยู่ของพระเจ้าพระสงฆ์ทั้งหลาย

สงบจากความชั่วทั้งหมด เข้าถึงความสงบ
แต่ละส่วนความการปฏบัติเท่านั้น เป็นเบื้องต้น
มันจะละเอียดไปตามขั้นของธรรม
ส่วนใหญ่เอาความรู้ในธรรมวินัยนั้นมาถกมาเถียงกัน
“รู้”แล้วก็“ยึด” หลงดี และอยากให้คนอื่นดี
พอคนอื่นไม่ดีก็ตำหนิคนอื่น ตัวเองก็เลยไม่ดีไปด้วย


ส่วนใหญ่มองไม่เห็นตัวนี้..
เพราะเข้าใจพระธรรมวินัยแบบผิดไป
มองคนละมุม ส่วนครูบา(ครูบาฉ่าย)มองว่า
คนที่ยังมีกิเลสอยู่นั้นแหละ
คือคนที่มาบวชเพื่อฝึกตนพ้นออกจากกิเลส
เพราะฉนั้นต้องเข้าใจว่า คนมีกิเลสอยู่
และพยายามฝึกตนอยู่ หอบกิเลสมาบวชทั้งนั้น
“หัวอกเดียวกัน”

พระธรรมวินัยนั้นเป็นเครื่องรักษาตัวเอง
การปฏิบัติธรรมเพื่อเข้าถึงตัวนี้เท่านั้น


จบ..ในส่วนของพระธรรมวินัย
#ครูบาฉ่าย ไลฟ์สด20.00น. 12/8/2566
#วัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์

พระธรรมวินัย ศีล ทำให้เรารู้สึกว่าเป็นพระ
พระธรรมวินัย ทำให้ใจนี้เป็นอิสระ
จากความกังวล เมื่อเข้าถึงกรรมดี เมื่อจิต มีความดี
มีกรรมดี เป็นเครื่องอาศัย จิตก็พ้นจากอกุศล
การเดิน การอยู่ การเป็น การไป จึงบริสุทธิ์


เพราะอะไร.. "เ พ ร า ะ ค ว า ม ดี" นั้นแหละ
คือเครื่องอยู่ของพระ จึงไม่กลัว ไม่มีความกลัว
ไม่มีความระแวง มีแต่ความจริง
เพราะปฏิบัติตามธรรมวินัย มีศีลเป็นเครื่องรองรับ

ธรรมชาติของศีลนั้น บริสุทธิ์ล้วนๆ
แต่ผู้จะปฏิบัติให้เข้าถึงความบริสุทธิ์นั้น
ปฏิบัติได้แค่ไหน ถ้าบุคคลใดปฏิบัติเข้าถึงความบริสุทธิ์
ตามแห่งศีลแล้ว ใจก็เข้าถึงความบริสุทธิ์ได้เช่นกัน
จะไม่มีความกังวล ไม่กังวลว่าตัวเองนี้ผิด ทำผิด
เพราะความดีเป็นสมบัติของใจ


เรามีความดี มีศีล มีพระธรรมวินัย เป็นสมบัติของใจ
และเชื่อมั่นในพระพุทธเจ้าด้วย
เชื่อมันในเรื่องของ ก ร ร ม นั้นแหละ
ในเมื่อเราเป็นผู้ปฏิบัติกรรมดี อยู่ในกุศลกรรมย่อมปิดนรก
นรกนั้นมีจริง ต่อให้ยังไม่รู้ก็ตามว่า นรกนั้นมีหรือไม่มี
เพราะเหตุที่จะไปสู่โลกที่ชั่วนั้นไม่มี เรียกว่า อกุศลนั้นไม่เกิด
จิต มุ่งไปสู่กุศลเพียงอย่างเดียว การเป็นอยู่จึงอาจหาญ
นั้นจึงเป็นเครื่องอยู่ของพระเจ้าพระสงฆ์ทั้งหลาย

สงบจากความชั่วทั้งหมด เข้าถึงความสงบ
แต่ละส่วนความการปฏบัติเท่านั้น เป็นเบื้องต้น
มันจะละเอียดไปตามขั้นของธรรม
ส่วนใหญ่เอาความรู้ในธรรมวินัยนั้นมาถกมาเถียงกัน
“รู้”แล้วก็“ยึด” หลงดี และอยากให้คนอื่นดี
พอคนอื่นไม่ดีก็ตำหนิคนอื่น ตัวเองก็เลยไม่ดีไปด้วย


ส่วนใหญ่มองไม่เห็นตัวนี้..
เพราะเข้าใจพระธรรมวินัยแบบผิดไป
มองคนละมุม ส่วนครูบา(ครูบาฉ่าย)มองว่า
คนที่ยังมีกิเลสอยู่นั้นแหละ
คือคนที่มาบวชเพื่อฝึกตนพ้นออกจากกิเลส
เพราะฉนั้นต้องเข้าใจว่า คนมีกิเลสอยู่
และพยายามฝึกตนอยู่ หอบกิเลสมาบวชทั้งนั้น
“หัวอกเดียวกัน”

พระธรรมวินัยนั้นเป็นเครื่องรักษาตัวเอง
การปฏิบัติธรรมเพื่อเข้าถึงตัวนี้เท่านั้น


จบ..ในส่วนของพระธรรมวินัย
#ครูบาฉ่าย ไลฟ์สด20.00น. 12/8/2566
#วัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์

พระธรรมวินัย ศีล ทำให้เรารู้สึกว่าเป็นพระ
พระธรรมวินัย ทำให้ใจนี้เป็นอิสระ
จากความกังวล เมื่อเข้าถึงกรรมดี เมื่อจิต มีความดี
มีกรรมดี เป็นเครื่องอาศัย จิตก็พ้นจากอกุศล
การเดิน การอยู่ การเป็น การไป จึงบริสุทธิ์


เพราะอะไร.. "เ พ ร า ะ ค ว า ม ดี" นั้นแหละ
คือเครื่องอยู่ของพระ จึงไม่กลัว ไม่มีความกลัว
ไม่มีความระแวง มีแต่ความจริง
เพราะปฏิบัติตามธรรมวินัย มีศีลเป็นเครื่องรองรับ

ธรรมชาติของศีลนั้น บริสุทธิ์ล้วนๆ
แต่ผู้จะปฏิบัติให้เข้าถึงความบริสุทธิ์นั้น
ปฏิบัติได้แค่ไหน ถ้าบุคคลใดปฏิบัติเข้าถึงความบริสุทธิ์
ตามแห่งศีลแล้ว ใจก็เข้าถึงความบริสุทธิ์ได้เช่นกัน
จะไม่มีความกังวล ไม่กังวลว่าตัวเองนี้ผิด ทำผิด
เพราะความดีเป็นสมบัติของใจ


เรามีความดี มีศีล มีพระธรรมวินัย เป็นสมบัติของใจ
และเชื่อมั่นในพระพุทธเจ้าด้วย
เชื่อมันในเรื่องของ ก ร ร ม นั้นแหละ
ในเมื่อเราเป็นผู้ปฏิบัติกรรมดี อยู่ในกุศลกรรมย่อมปิดนรก
นรกนั้นมีจริง ต่อให้ยังไม่รู้ก็ตามว่า นรกนั้นมีหรือไม่มี
เพราะเหตุที่จะไปสู่โลกที่ชั่วนั้นไม่มี เรียกว่า อกุศลนั้นไม่เกิด
จิต มุ่งไปสู่กุศลเพียงอย่างเดียว การเป็นอยู่จึงอาจหาญ
นั้นจึงเป็นเครื่องอยู่ของพระเจ้าพระสงฆ์ทั้งหลาย

สงบจากความชั่วทั้งหมด เข้าถึงความสงบ
แต่ละส่วนความการปฏบัติเท่านั้น เป็นเบื้องต้น
มันจะละเอียดไปตามขั้นของธรรม
ส่วนใหญ่เอาความรู้ในธรรมวินัยนั้นมาถกมาเถียงกัน
“รู้”แล้วก็“ยึด” หลงดี และอยากให้คนอื่นดี
พอคนอื่นไม่ดีก็ตำหนิคนอื่น ตัวเองก็เลยไม่ดีไปด้วย


ส่วนใหญ่มองไม่เห็นตัวนี้..
เพราะเข้าใจพระธรรมวินัยแบบผิดไป
มองคนละมุม ส่วนครูบา(ครูบาฉ่าย)มองว่า
คนที่ยังมีกิเลสอยู่นั้นแหละ
คือคนที่มาบวชเพื่อฝึกตนพ้นออกจากกิเลส
เพราะฉนั้นต้องเข้าใจว่า คนมีกิเลสอยู่
และพยายามฝึกตนอยู่ หอบกิเลสมาบวชทั้งนั้น
“หัวอกเดียวกัน”

พระธรรมวินัยนั้นเป็นเครื่องรักษาตัวเอง
การปฏิบัติธรรมเพื่อเข้าถึงตัวนี้เท่านั้น


จบ..ในส่วนของพระธรรมวินัย
#ครูบาฉ่าย ไลฟ์สด20.00น. 12/8/2566
#วัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์

พระธรรมวินัย ศีล ทำให้เรารู้สึกว่าเป็นพระ
พระธรรมวินัย ทำให้ใจนี้เป็นอิสระ
จากความกังวล เมื่อเข้าถึงกรรมดี เมื่อจิต มีความดี
มีกรรมดี เป็นเครื่องอาศัย จิตก็พ้นจากอกุศล
การเดิน การอยู่ การเป็น การไป จึงบริสุทธิ์


เพราะอะไร.. "เ พ ร า ะ ค ว า ม ดี" นั้นแหละ
คือเครื่องอยู่ของพระ จึงไม่กลัว ไม่มีความกลัว
ไม่มีความระแวง มีแต่ความจริง
เพราะปฏิบัติตามธรรมวินัย มีศีลเป็นเครื่องรองรับ

ธรรมชาติของศีลนั้น บริสุทธิ์ล้วนๆ
แต่ผู้จะปฏิบัติให้เข้าถึงความบริสุทธิ์นั้น
ปฏิบัติได้แค่ไหน ถ้าบุคคลใดปฏิบัติเข้าถึงความบริสุทธิ์
ตามแห่งศีลแล้ว ใจก็เข้าถึงความบริสุทธิ์ได้เช่นกัน
จะไม่มีความกังวล ไม่กังวลว่าตัวเองนี้ผิด ทำผิด
เพราะความดีเป็นสมบัติของใจ


เรามีความดี มีศีล มีพระธรรมวินัย เป็นสมบัติของใจ
และเชื่อมั่นในพระพุทธเจ้าด้วย
เชื่อมันในเรื่องของ ก ร ร ม นั้นแหละ
ในเมื่อเราเป็นผู้ปฏิบัติกรรมดี อยู่ในกุศลกรรมย่อมปิดนรก
นรกนั้นมีจริง ต่อให้ยังไม่รู้ก็ตามว่า นรกนั้นมีหรือไม่มี
เพราะเหตุที่จะไปสู่โลกที่ชั่วนั้นไม่มี เรียกว่า อกุศลนั้นไม่เกิด
จิต มุ่งไปสู่กุศลเพียงอย่างเดียว การเป็นอยู่จึงอาจหาญ
นั้นจึงเป็นเครื่องอยู่ของพระเจ้าพระสงฆ์ทั้งหลาย

สงบจากความชั่วทั้งหมด เข้าถึงความสงบ
แต่ละส่วนความการปฏบัติเท่านั้น เป็นเบื้องต้น
มันจะละเอียดไปตามขั้นของธรรม
ส่วนใหญ่เอาความรู้ในธรรมวินัยนั้นมาถกมาเถียงกัน
“รู้”แล้วก็“ยึด” หลงดี และอยากให้คนอื่นดี
พอคนอื่นไม่ดีก็ตำหนิคนอื่น ตัวเองก็เลยไม่ดีไปด้วย


ส่วนใหญ่มองไม่เห็นตัวนี้..
เพราะเข้าใจพระธรรมวินัยแบบผิดไป
มองคนละมุม ส่วนครูบา(ครูบาฉ่าย)มองว่า
คนที่ยังมีกิเลสอยู่นั้นแหละ
คือคนที่มาบวชเพื่อฝึกตนพ้นออกจากกิเลส
เพราะฉนั้นต้องเข้าใจว่า คนมีกิเลสอยู่
และพยายามฝึกตนอยู่ หอบกิเลสมาบวชทั้งนั้น
“หัวอกเดียวกัน”

พระธรรมวินัยนั้นเป็นเครื่องรักษาตัวเอง
การปฏิบัติธรรมเพื่อเข้าถึงตัวนี้เท่านั้น


จบ..ในส่วนของพระธรรมวินัย
#ครูบาฉ่าย ไลฟ์สด20.00น. 12/8/2566
#วัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์

ครูบาฉ่าย

วัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์

ครูบาฉ่าย คัมภีรปัญโญ แห่งวัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์ ธรรมมะที่ดุดัน ชัดแจ้ง เป็นไปเพื่อความหลุดพ้นอย่างแท้จริง

ครูบาฉ่าย

วัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์

ครูบาฉ่าย คัมภีรปัญโญ แห่งวัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์ ธรรมมะที่ดุดัน ชัดแจ้ง เป็นไปเพื่อความหลุดพ้นอย่างแท้จริง

ครูบาฉ่าย

วัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์

ครูบาฉ่าย คัมภีรปัญโญ แห่งวัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์ ธรรมมะที่ดุดัน ชัดแจ้ง เป็นไปเพื่อความหลุดพ้นอย่างแท้จริง

ครูบาฉ่าย

วัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์

ครูบาฉ่าย คัมภีรปัญโญ แห่งวัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์ ธรรมมะที่ดุดัน ชัดแจ้ง เป็นไปเพื่อความหลุดพ้นอย่างแท้จริง