ต้นเหตุของโรคซึมเศร้า
แม่ชีเจิ้น
บทบรรยาย
แม่ชีเจิ้น
บทบรรยาย
แม่ชีเจิ้น
บทบรรยาย
แม่ชีเจิ้น
บทบรรยาย
*trigger warning*
ถาม:
ต้นเหตุของโรคซึมเศร้า สมมุติว่าเราเป็นอยู่
เราจะอยู่กับมันยังไง แล้วมันจะหายไปยังไง?
ตอบ:
โรคซึมเศร้า คือ โรคย้ำคิด คิดซ้ำ คิดเรื่องเดิม
ย้ำไปย้ำมา คิดมากๆ อยากฆ่าตัวตาย
เพราะคิดว่าการฆ่าตัวตาย จะพ้นออกจากอารมณ์ตัวนี้
เขาคิดว่าถ้ามันมันตายซะ ร่างกายนี้ ตาย.. .
เขาจะไม่ได้รับอารมณ์ตัวนั้นอีก
.
ซึ่งตัวนำไปเกิดจริงๆ ก็คือความยึดในอารมณ์
คนที่จะไปเกิดเป็นเทวดา ตกนรก เป็นหมู เป็นหมา
มันเป็นได้เพราะอะไร อะไรพาไปเป็น
.
ก็ อ า ร ม ณ์ จิ ต ใ จ นี่แหละ
ความเป็นอยู่ในทุกวันนี้นี่แหละ อย่าไปคิดนะ.. .
“ว่าตายไปด้วยความทุกข์ แล้วมันจะพ้นทุกข์”
อย่าให้มัน ห ล อ ก ขนาดนั้น
.
เบื้องต้น ถ้าจะแก้อาการตัวนี้
รอบข้างต้องเข้าใจก่อน เข้าใจเขา
พาเขารู้จักการ “ ใ ห้ ” . . .
เบื้องต้นเลย พาทำ “ทาน” ทานใน ณ ที่นี้
ให้รู้จักสร้างเจตนา ในการรู้จักแบ่งปัน
.
ใจเขาจะคลายออกจาก ความย้ำคิดย้ำทำ
อารมณ์ที่มันตอกย้ำอยู่ตลอดเวลา
คนเรามันต้อง“คิด”ขนาดไหน
ความคิดมันต้องมีกำลังขนาดไหน
จนกล้าจะฆ่าตัวเอง ทำไมเราไม่เห็นโทษละ.. .
.
ความคิดก็แค่อากาศ ใช่..ตอนมันยังไม่มีกำลัง
แต่ถ้ามันคิดซ้ำๆล่ะ เพราะอะไรที่เขาย้ำคิดย้ำทำ
เพราะความพร่องในใจ อยากได้ ให้คนอื่นเข้าใจ
เรียกร้องทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง
เรียกร้องเอาจากคนอื่น ทำไมมันถึงเป็นอย่างนั้น
เพราะเขาไม่สร้างคุณค่าตัวเองขึ้นมา
.
ในเมื่อมันเป็นวิบาก เป็นผลแล้ว
การแก้ เพราะอารมณ์เนี่ย มันเนื่อง มันสืบเนื่อง
มันต่อเนื่อง มันสะสมกันเป็นกำลังที่ใหญ่ละ
แก้ได้ไหม? แก้ได้..ถ้าเราฝึกจริงๆ
ถ้าเราอยากหายหรือ อยากแก้ในสิ่งๆนั้นจริงๆ
ถ้าเราเห็นโทษของมันจริงๆ.. .
.
ในการใช้ชีวิตประจำวันเนี่ย มีส่วนมากนะ
เหมือนอารมณ์..เราไปบังคับให้มันหยุดไม่ได้
เราไปควบคุมมันไม่ได้ เราต้องเปลี่ยนสถานที่
เราต้องไปอยู่ ในสิ่งที่แบบ..
.
สังเกตไหม? ห้องทึบ ห้องคนเดียว
“ความคิดฟุ้งเลยนะ”
.
กลับกันทีนี้..เราไปนั่ง มองออกไปกว้างๆ
สีเขียว ธรรมชาติ มีภูเขา มีทะเล
ทำไมความคิดแทบไม่มีเลย...
กลับเป็นความรู้สึกตัวทรงอยู่ เราเคยสังเกตไหม?
ธรรมชาติมันให้อะไรเราเยอะนะ
.
แล้วคนที่ชอบเป็นโรคอย่างเงี้ย จะชอบขังตัวเอง
เพราะอะไร.. เพราะจิตมันย้ำคิด “มันขัง”
ขังมากๆ มันก็เน่า.. .
.
ถาม:
แสดงว่าที่เราเข้าป่า พลังงานตรงนั้นมันช่วย?
ตอบ:
มันผ่อนคลายโดยอัติโนมัติเลย..
สังเกตไหม? ทำไมเราต้องไปเที่ยว ไปนั่นไปนี่
แต่พอเราหมายทีนี้..
มันอยาก ต้องการอารมณ์นี้เยอะๆเยอะๆ
ทีนี้..มันไม่ได้ไปธรรมชาติเพื่อเรียนรู้
มันไปเพื่อที่จะ เ ก็ บ กั ก มันมีเหตุที่ซ้อนไปอีก
เลยต้องมี“สติ”ตัวเดียวเลย ไม่งั้นมันจะซ้อนกันไว้หมด
อะไรก็ตามที่มันวาง แล้วมันหมาย
มันจะมี“อัตตา”ซ้อนๆๆไว้เลย..
.
ถาม:
แล้วการอยู่กับมัน มันมีทางจะหายมั้ย?
ตอบ:
หายได้ ถ้าฝึก มีหลายเคสนะ ที่มาฝึกแล้วหาย
หายเลย..จากที่จะฆ่าตัวตาย
.
เริ่มรู้จักให้ หนูให้ไปอยู่อนาคอนด้า(โรงปานะ)
ให้เขาให้ไปเรียนรู้ ที่จะเป็น “ ผู้ ใ ห้ ”
การเป็นผู้ให้ตรงนี้ไม่ได้เกี่ยวกับวัตถุนะ
พาเขาทำ แล้วเห็นคุณค่า ในสิ่งที่เขาทำ
.
ให้เขารู้จักเอาของไปให้คนอื่น
ให้เขาเห็นเวลาคนอื่นได้รับของ ความรู้สึกเป็นยังไง
ให้เขาเห็นคุณค่า เวลาเขาได้เป็นผู้ให้..เขาดีใจไหม
ถ้าจิตมันเริ่มเห็นคุณค่าของตรงเนี้ย ..
ไอ้อาการตัวนี้จะค่อยๆ บ ร ร เ ท า ลง
.
แต่ที่มันทุกข์ ย้ำคิดย้ำทำเนี่ย ..
เพราะมันไม่รู้จักให้ใคร มันเห็นแก่ตัว
มันเลยมีแต่เรียกร้องเอา โดยการคิดกลับไปกลับมา
.
ไม่ได้ทุกข์เพราะ อย่างอื่นเลยนะ
ทุกข์เพราะ“ความคิด” แล้วก็วังวนตัวนี้ไม่ได้
มันก็เป็นอารมณ์ โดยที่เราไม่รู้เลยทีนี้
เป็นพายุใหญ่ละ .. .
.
แค่มันสงบลง รอบข้างสงบ
แต่แค่มันมีกำลัง.. รอบข้างก็ปั่นป่วนหมด
กลับกันทีเนี้ย การปฏิบัติ ถ้าเราทุกคนรักษาตัวเอง
ต่างคนต่างรักษาตัวเอง ปัญหามันเลยไม่มี
แต่ประเด็นคือ การปฏิบัติปุ๊บ พอเริ่มเห็นว่าดี
ไปมัวเมตตาแต่คนอื่น อยากให้คนอื่นดี
ถึงพูดอยู่ตลอดว่า..อะไรที่เราเห็นว่าดี เราไม่อยากดีเหรอ?
.
เราทำเองนะ ง่ายกว่า ฝึกหัดตัวเอง
คนทั้งโลกจะเป็นอะไรไม่ได้เกี่ยวกับเรานะ
เขาจะเป็นพระอรหันต์ เขาจะเป็นคนไม่ดี
เขาจะเป็นอะไรก็ตามไม่ได้เกี่ยวกับเราเลย
.
ประเด็นคือ.. เราเป็นอะไร แล้วเราได้เรียนรู้อะไรจากเขา
“การกระทำที่ไม่ดีของคนอื่น เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับเรา”
เพื่อที่จะให้เราละสิ่งๆนั้น โดยที่เราไม่ต้องลงทุนทำเลย
แต่ส่วนใหญ่เราไม่มีสติเห็นมีนี่สิ ..
.
สิ่งที่เราควรคำนึงถึงตลอดเวลา คือจิตใจเราเอง
ควรรู้อยู่ตลอดเวลา คือใจเราเอง
อย่าพยายามไปรักษาสิ่งอื่น เพราะสิ่งอื่นไม่มีทางเที่ยง
.
เอาความรู้สึกไปฝากไว้กับใคร
ความผิดหวังเกิดขึ้นทันที.. .
เพราะอะไร เพราะเรา“หวัง”
อะไรที่ไม่เป็นไปตามความหวังของเรา
“เ ร า จ ะ ทุ ก ข์”
.
สู้ดีอยู่แบบมีสติรู้ ไม่ต้องหวัง
รู้ตามเป็นจริงลงไป ลงในปัจจุบันให้ได้
มีอะไรเกิดขึ้นก็รู้ ไม่พอใจก็รู้ รักก็รู้ เกลียดก็รู้
แต่ไม่เข้าไปรัก ไม่เข้าไปเกลียดกับมัน
เห็นมัน..เห็นอนุสัย เห็นการทำงาน เห็นมันถี่เข้าๆ
มันแยกธาตุ แยกขันธ์ แยกออกจากกัน
เดี๋ยวมันก็พ้นออกจากกัน.. .
.
(บทความถอดจากไลฟ์สด #แม่ชีเจิ้น ค่ำวันที่ 15 ก.ค. 66)
#วัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์
*trigger warning*
ถาม:
ต้นเหตุของโรคซึมเศร้า สมมุติว่าเราเป็นอยู่
เราจะอยู่กับมันยังไง แล้วมันจะหายไปยังไง?
ตอบ:
โรคซึมเศร้า คือ โรคย้ำคิด คิดซ้ำ คิดเรื่องเดิม
ย้ำไปย้ำมา คิดมากๆ อยากฆ่าตัวตาย
เพราะคิดว่าการฆ่าตัวตาย จะพ้นออกจากอารมณ์ตัวนี้
เขาคิดว่าถ้ามันมันตายซะ ร่างกายนี้ ตาย.. .
เขาจะไม่ได้รับอารมณ์ตัวนั้นอีก
.
ซึ่งตัวนำไปเกิดจริงๆ ก็คือความยึดในอารมณ์
คนที่จะไปเกิดเป็นเทวดา ตกนรก เป็นหมู เป็นหมา
มันเป็นได้เพราะอะไร อะไรพาไปเป็น
.
ก็ อ า ร ม ณ์ จิ ต ใ จ นี่แหละ
ความเป็นอยู่ในทุกวันนี้นี่แหละ อย่าไปคิดนะ.. .
“ว่าตายไปด้วยความทุกข์ แล้วมันจะพ้นทุกข์”
อย่าให้มัน ห ล อ ก ขนาดนั้น
.
เบื้องต้น ถ้าจะแก้อาการตัวนี้
รอบข้างต้องเข้าใจก่อน เข้าใจเขา
พาเขารู้จักการ “ ใ ห้ ” . . .
เบื้องต้นเลย พาทำ “ทาน” ทานใน ณ ที่นี้
ให้รู้จักสร้างเจตนา ในการรู้จักแบ่งปัน
.
ใจเขาจะคลายออกจาก ความย้ำคิดย้ำทำ
อารมณ์ที่มันตอกย้ำอยู่ตลอดเวลา
คนเรามันต้อง“คิด”ขนาดไหน
ความคิดมันต้องมีกำลังขนาดไหน
จนกล้าจะฆ่าตัวเอง ทำไมเราไม่เห็นโทษละ.. .
.
ความคิดก็แค่อากาศ ใช่..ตอนมันยังไม่มีกำลัง
แต่ถ้ามันคิดซ้ำๆล่ะ เพราะอะไรที่เขาย้ำคิดย้ำทำ
เพราะความพร่องในใจ อยากได้ ให้คนอื่นเข้าใจ
เรียกร้องทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง
เรียกร้องเอาจากคนอื่น ทำไมมันถึงเป็นอย่างนั้น
เพราะเขาไม่สร้างคุณค่าตัวเองขึ้นมา
.
ในเมื่อมันเป็นวิบาก เป็นผลแล้ว
การแก้ เพราะอารมณ์เนี่ย มันเนื่อง มันสืบเนื่อง
มันต่อเนื่อง มันสะสมกันเป็นกำลังที่ใหญ่ละ
แก้ได้ไหม? แก้ได้..ถ้าเราฝึกจริงๆ
ถ้าเราอยากหายหรือ อยากแก้ในสิ่งๆนั้นจริงๆ
ถ้าเราเห็นโทษของมันจริงๆ.. .
.
ในการใช้ชีวิตประจำวันเนี่ย มีส่วนมากนะ
เหมือนอารมณ์..เราไปบังคับให้มันหยุดไม่ได้
เราไปควบคุมมันไม่ได้ เราต้องเปลี่ยนสถานที่
เราต้องไปอยู่ ในสิ่งที่แบบ..
.
สังเกตไหม? ห้องทึบ ห้องคนเดียว
“ความคิดฟุ้งเลยนะ”
.
กลับกันทีนี้..เราไปนั่ง มองออกไปกว้างๆ
สีเขียว ธรรมชาติ มีภูเขา มีทะเล
ทำไมความคิดแทบไม่มีเลย...
กลับเป็นความรู้สึกตัวทรงอยู่ เราเคยสังเกตไหม?
ธรรมชาติมันให้อะไรเราเยอะนะ
.
แล้วคนที่ชอบเป็นโรคอย่างเงี้ย จะชอบขังตัวเอง
เพราะอะไร.. เพราะจิตมันย้ำคิด “มันขัง”
ขังมากๆ มันก็เน่า.. .
.
ถาม:
แสดงว่าที่เราเข้าป่า พลังงานตรงนั้นมันช่วย?
ตอบ:
มันผ่อนคลายโดยอัติโนมัติเลย..
สังเกตไหม? ทำไมเราต้องไปเที่ยว ไปนั่นไปนี่
แต่พอเราหมายทีนี้..
มันอยาก ต้องการอารมณ์นี้เยอะๆเยอะๆ
ทีนี้..มันไม่ได้ไปธรรมชาติเพื่อเรียนรู้
มันไปเพื่อที่จะ เ ก็ บ กั ก มันมีเหตุที่ซ้อนไปอีก
เลยต้องมี“สติ”ตัวเดียวเลย ไม่งั้นมันจะซ้อนกันไว้หมด
อะไรก็ตามที่มันวาง แล้วมันหมาย
มันจะมี“อัตตา”ซ้อนๆๆไว้เลย..
.
ถาม:
แล้วการอยู่กับมัน มันมีทางจะหายมั้ย?
ตอบ:
หายได้ ถ้าฝึก มีหลายเคสนะ ที่มาฝึกแล้วหาย
หายเลย..จากที่จะฆ่าตัวตาย
.
เริ่มรู้จักให้ หนูให้ไปอยู่อนาคอนด้า(โรงปานะ)
ให้เขาให้ไปเรียนรู้ ที่จะเป็น “ ผู้ ใ ห้ ”
การเป็นผู้ให้ตรงนี้ไม่ได้เกี่ยวกับวัตถุนะ
พาเขาทำ แล้วเห็นคุณค่า ในสิ่งที่เขาทำ
.
ให้เขารู้จักเอาของไปให้คนอื่น
ให้เขาเห็นเวลาคนอื่นได้รับของ ความรู้สึกเป็นยังไง
ให้เขาเห็นคุณค่า เวลาเขาได้เป็นผู้ให้..เขาดีใจไหม
ถ้าจิตมันเริ่มเห็นคุณค่าของตรงเนี้ย ..
ไอ้อาการตัวนี้จะค่อยๆ บ ร ร เ ท า ลง
.
แต่ที่มันทุกข์ ย้ำคิดย้ำทำเนี่ย ..
เพราะมันไม่รู้จักให้ใคร มันเห็นแก่ตัว
มันเลยมีแต่เรียกร้องเอา โดยการคิดกลับไปกลับมา
.
ไม่ได้ทุกข์เพราะ อย่างอื่นเลยนะ
ทุกข์เพราะ“ความคิด” แล้วก็วังวนตัวนี้ไม่ได้
มันก็เป็นอารมณ์ โดยที่เราไม่รู้เลยทีนี้
เป็นพายุใหญ่ละ .. .
.
แค่มันสงบลง รอบข้างสงบ
แต่แค่มันมีกำลัง.. รอบข้างก็ปั่นป่วนหมด
กลับกันทีเนี้ย การปฏิบัติ ถ้าเราทุกคนรักษาตัวเอง
ต่างคนต่างรักษาตัวเอง ปัญหามันเลยไม่มี
แต่ประเด็นคือ การปฏิบัติปุ๊บ พอเริ่มเห็นว่าดี
ไปมัวเมตตาแต่คนอื่น อยากให้คนอื่นดี
ถึงพูดอยู่ตลอดว่า..อะไรที่เราเห็นว่าดี เราไม่อยากดีเหรอ?
.
เราทำเองนะ ง่ายกว่า ฝึกหัดตัวเอง
คนทั้งโลกจะเป็นอะไรไม่ได้เกี่ยวกับเรานะ
เขาจะเป็นพระอรหันต์ เขาจะเป็นคนไม่ดี
เขาจะเป็นอะไรก็ตามไม่ได้เกี่ยวกับเราเลย
.
ประเด็นคือ.. เราเป็นอะไร แล้วเราได้เรียนรู้อะไรจากเขา
“การกระทำที่ไม่ดีของคนอื่น เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับเรา”
เพื่อที่จะให้เราละสิ่งๆนั้น โดยที่เราไม่ต้องลงทุนทำเลย
แต่ส่วนใหญ่เราไม่มีสติเห็นมีนี่สิ ..
.
สิ่งที่เราควรคำนึงถึงตลอดเวลา คือจิตใจเราเอง
ควรรู้อยู่ตลอดเวลา คือใจเราเอง
อย่าพยายามไปรักษาสิ่งอื่น เพราะสิ่งอื่นไม่มีทางเที่ยง
.
เอาความรู้สึกไปฝากไว้กับใคร
ความผิดหวังเกิดขึ้นทันที.. .
เพราะอะไร เพราะเรา“หวัง”
อะไรที่ไม่เป็นไปตามความหวังของเรา
“เ ร า จ ะ ทุ ก ข์”
.
สู้ดีอยู่แบบมีสติรู้ ไม่ต้องหวัง
รู้ตามเป็นจริงลงไป ลงในปัจจุบันให้ได้
มีอะไรเกิดขึ้นก็รู้ ไม่พอใจก็รู้ รักก็รู้ เกลียดก็รู้
แต่ไม่เข้าไปรัก ไม่เข้าไปเกลียดกับมัน
เห็นมัน..เห็นอนุสัย เห็นการทำงาน เห็นมันถี่เข้าๆ
มันแยกธาตุ แยกขันธ์ แยกออกจากกัน
เดี๋ยวมันก็พ้นออกจากกัน.. .
.
(บทความถอดจากไลฟ์สด #แม่ชีเจิ้น ค่ำวันที่ 15 ก.ค. 66)
#วัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์
*trigger warning*
ถาม:
ต้นเหตุของโรคซึมเศร้า สมมุติว่าเราเป็นอยู่
เราจะอยู่กับมันยังไง แล้วมันจะหายไปยังไง?
ตอบ:
โรคซึมเศร้า คือ โรคย้ำคิด คิดซ้ำ คิดเรื่องเดิม
ย้ำไปย้ำมา คิดมากๆ อยากฆ่าตัวตาย
เพราะคิดว่าการฆ่าตัวตาย จะพ้นออกจากอารมณ์ตัวนี้
เขาคิดว่าถ้ามันมันตายซะ ร่างกายนี้ ตาย.. .
เขาจะไม่ได้รับอารมณ์ตัวนั้นอีก
.
ซึ่งตัวนำไปเกิดจริงๆ ก็คือความยึดในอารมณ์
คนที่จะไปเกิดเป็นเทวดา ตกนรก เป็นหมู เป็นหมา
มันเป็นได้เพราะอะไร อะไรพาไปเป็น
.
ก็ อ า ร ม ณ์ จิ ต ใ จ นี่แหละ
ความเป็นอยู่ในทุกวันนี้นี่แหละ อย่าไปคิดนะ.. .
“ว่าตายไปด้วยความทุกข์ แล้วมันจะพ้นทุกข์”
อย่าให้มัน ห ล อ ก ขนาดนั้น
.
เบื้องต้น ถ้าจะแก้อาการตัวนี้
รอบข้างต้องเข้าใจก่อน เข้าใจเขา
พาเขารู้จักการ “ ใ ห้ ” . . .
เบื้องต้นเลย พาทำ “ทาน” ทานใน ณ ที่นี้
ให้รู้จักสร้างเจตนา ในการรู้จักแบ่งปัน
.
ใจเขาจะคลายออกจาก ความย้ำคิดย้ำทำ
อารมณ์ที่มันตอกย้ำอยู่ตลอดเวลา
คนเรามันต้อง“คิด”ขนาดไหน
ความคิดมันต้องมีกำลังขนาดไหน
จนกล้าจะฆ่าตัวเอง ทำไมเราไม่เห็นโทษละ.. .
.
ความคิดก็แค่อากาศ ใช่..ตอนมันยังไม่มีกำลัง
แต่ถ้ามันคิดซ้ำๆล่ะ เพราะอะไรที่เขาย้ำคิดย้ำทำ
เพราะความพร่องในใจ อยากได้ ให้คนอื่นเข้าใจ
เรียกร้องทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง
เรียกร้องเอาจากคนอื่น ทำไมมันถึงเป็นอย่างนั้น
เพราะเขาไม่สร้างคุณค่าตัวเองขึ้นมา
.
ในเมื่อมันเป็นวิบาก เป็นผลแล้ว
การแก้ เพราะอารมณ์เนี่ย มันเนื่อง มันสืบเนื่อง
มันต่อเนื่อง มันสะสมกันเป็นกำลังที่ใหญ่ละ
แก้ได้ไหม? แก้ได้..ถ้าเราฝึกจริงๆ
ถ้าเราอยากหายหรือ อยากแก้ในสิ่งๆนั้นจริงๆ
ถ้าเราเห็นโทษของมันจริงๆ.. .
.
ในการใช้ชีวิตประจำวันเนี่ย มีส่วนมากนะ
เหมือนอารมณ์..เราไปบังคับให้มันหยุดไม่ได้
เราไปควบคุมมันไม่ได้ เราต้องเปลี่ยนสถานที่
เราต้องไปอยู่ ในสิ่งที่แบบ..
.
สังเกตไหม? ห้องทึบ ห้องคนเดียว
“ความคิดฟุ้งเลยนะ”
.
กลับกันทีนี้..เราไปนั่ง มองออกไปกว้างๆ
สีเขียว ธรรมชาติ มีภูเขา มีทะเล
ทำไมความคิดแทบไม่มีเลย...
กลับเป็นความรู้สึกตัวทรงอยู่ เราเคยสังเกตไหม?
ธรรมชาติมันให้อะไรเราเยอะนะ
.
แล้วคนที่ชอบเป็นโรคอย่างเงี้ย จะชอบขังตัวเอง
เพราะอะไร.. เพราะจิตมันย้ำคิด “มันขัง”
ขังมากๆ มันก็เน่า.. .
.
ถาม:
แสดงว่าที่เราเข้าป่า พลังงานตรงนั้นมันช่วย?
ตอบ:
มันผ่อนคลายโดยอัติโนมัติเลย..
สังเกตไหม? ทำไมเราต้องไปเที่ยว ไปนั่นไปนี่
แต่พอเราหมายทีนี้..
มันอยาก ต้องการอารมณ์นี้เยอะๆเยอะๆ
ทีนี้..มันไม่ได้ไปธรรมชาติเพื่อเรียนรู้
มันไปเพื่อที่จะ เ ก็ บ กั ก มันมีเหตุที่ซ้อนไปอีก
เลยต้องมี“สติ”ตัวเดียวเลย ไม่งั้นมันจะซ้อนกันไว้หมด
อะไรก็ตามที่มันวาง แล้วมันหมาย
มันจะมี“อัตตา”ซ้อนๆๆไว้เลย..
.
ถาม:
แล้วการอยู่กับมัน มันมีทางจะหายมั้ย?
ตอบ:
หายได้ ถ้าฝึก มีหลายเคสนะ ที่มาฝึกแล้วหาย
หายเลย..จากที่จะฆ่าตัวตาย
.
เริ่มรู้จักให้ หนูให้ไปอยู่อนาคอนด้า(โรงปานะ)
ให้เขาให้ไปเรียนรู้ ที่จะเป็น “ ผู้ ใ ห้ ”
การเป็นผู้ให้ตรงนี้ไม่ได้เกี่ยวกับวัตถุนะ
พาเขาทำ แล้วเห็นคุณค่า ในสิ่งที่เขาทำ
.
ให้เขารู้จักเอาของไปให้คนอื่น
ให้เขาเห็นเวลาคนอื่นได้รับของ ความรู้สึกเป็นยังไง
ให้เขาเห็นคุณค่า เวลาเขาได้เป็นผู้ให้..เขาดีใจไหม
ถ้าจิตมันเริ่มเห็นคุณค่าของตรงเนี้ย ..
ไอ้อาการตัวนี้จะค่อยๆ บ ร ร เ ท า ลง
.
แต่ที่มันทุกข์ ย้ำคิดย้ำทำเนี่ย ..
เพราะมันไม่รู้จักให้ใคร มันเห็นแก่ตัว
มันเลยมีแต่เรียกร้องเอา โดยการคิดกลับไปกลับมา
.
ไม่ได้ทุกข์เพราะ อย่างอื่นเลยนะ
ทุกข์เพราะ“ความคิด” แล้วก็วังวนตัวนี้ไม่ได้
มันก็เป็นอารมณ์ โดยที่เราไม่รู้เลยทีนี้
เป็นพายุใหญ่ละ .. .
.
แค่มันสงบลง รอบข้างสงบ
แต่แค่มันมีกำลัง.. รอบข้างก็ปั่นป่วนหมด
กลับกันทีเนี้ย การปฏิบัติ ถ้าเราทุกคนรักษาตัวเอง
ต่างคนต่างรักษาตัวเอง ปัญหามันเลยไม่มี
แต่ประเด็นคือ การปฏิบัติปุ๊บ พอเริ่มเห็นว่าดี
ไปมัวเมตตาแต่คนอื่น อยากให้คนอื่นดี
ถึงพูดอยู่ตลอดว่า..อะไรที่เราเห็นว่าดี เราไม่อยากดีเหรอ?
.
เราทำเองนะ ง่ายกว่า ฝึกหัดตัวเอง
คนทั้งโลกจะเป็นอะไรไม่ได้เกี่ยวกับเรานะ
เขาจะเป็นพระอรหันต์ เขาจะเป็นคนไม่ดี
เขาจะเป็นอะไรก็ตามไม่ได้เกี่ยวกับเราเลย
.
ประเด็นคือ.. เราเป็นอะไร แล้วเราได้เรียนรู้อะไรจากเขา
“การกระทำที่ไม่ดีของคนอื่น เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับเรา”
เพื่อที่จะให้เราละสิ่งๆนั้น โดยที่เราไม่ต้องลงทุนทำเลย
แต่ส่วนใหญ่เราไม่มีสติเห็นมีนี่สิ ..
.
สิ่งที่เราควรคำนึงถึงตลอดเวลา คือจิตใจเราเอง
ควรรู้อยู่ตลอดเวลา คือใจเราเอง
อย่าพยายามไปรักษาสิ่งอื่น เพราะสิ่งอื่นไม่มีทางเที่ยง
.
เอาความรู้สึกไปฝากไว้กับใคร
ความผิดหวังเกิดขึ้นทันที.. .
เพราะอะไร เพราะเรา“หวัง”
อะไรที่ไม่เป็นไปตามความหวังของเรา
“เ ร า จ ะ ทุ ก ข์”
.
สู้ดีอยู่แบบมีสติรู้ ไม่ต้องหวัง
รู้ตามเป็นจริงลงไป ลงในปัจจุบันให้ได้
มีอะไรเกิดขึ้นก็รู้ ไม่พอใจก็รู้ รักก็รู้ เกลียดก็รู้
แต่ไม่เข้าไปรัก ไม่เข้าไปเกลียดกับมัน
เห็นมัน..เห็นอนุสัย เห็นการทำงาน เห็นมันถี่เข้าๆ
มันแยกธาตุ แยกขันธ์ แยกออกจากกัน
เดี๋ยวมันก็พ้นออกจากกัน.. .
.
(บทความถอดจากไลฟ์สด #แม่ชีเจิ้น ค่ำวันที่ 15 ก.ค. 66)
#วัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์
*trigger warning*
ถาม:
ต้นเหตุของโรคซึมเศร้า สมมุติว่าเราเป็นอยู่
เราจะอยู่กับมันยังไง แล้วมันจะหายไปยังไง?
ตอบ:
โรคซึมเศร้า คือ โรคย้ำคิด คิดซ้ำ คิดเรื่องเดิม
ย้ำไปย้ำมา คิดมากๆ อยากฆ่าตัวตาย
เพราะคิดว่าการฆ่าตัวตาย จะพ้นออกจากอารมณ์ตัวนี้
เขาคิดว่าถ้ามันมันตายซะ ร่างกายนี้ ตาย.. .
เขาจะไม่ได้รับอารมณ์ตัวนั้นอีก
.
ซึ่งตัวนำไปเกิดจริงๆ ก็คือความยึดในอารมณ์
คนที่จะไปเกิดเป็นเทวดา ตกนรก เป็นหมู เป็นหมา
มันเป็นได้เพราะอะไร อะไรพาไปเป็น
.
ก็ อ า ร ม ณ์ จิ ต ใ จ นี่แหละ
ความเป็นอยู่ในทุกวันนี้นี่แหละ อย่าไปคิดนะ.. .
“ว่าตายไปด้วยความทุกข์ แล้วมันจะพ้นทุกข์”
อย่าให้มัน ห ล อ ก ขนาดนั้น
.
เบื้องต้น ถ้าจะแก้อาการตัวนี้
รอบข้างต้องเข้าใจก่อน เข้าใจเขา
พาเขารู้จักการ “ ใ ห้ ” . . .
เบื้องต้นเลย พาทำ “ทาน” ทานใน ณ ที่นี้
ให้รู้จักสร้างเจตนา ในการรู้จักแบ่งปัน
.
ใจเขาจะคลายออกจาก ความย้ำคิดย้ำทำ
อารมณ์ที่มันตอกย้ำอยู่ตลอดเวลา
คนเรามันต้อง“คิด”ขนาดไหน
ความคิดมันต้องมีกำลังขนาดไหน
จนกล้าจะฆ่าตัวเอง ทำไมเราไม่เห็นโทษละ.. .
.
ความคิดก็แค่อากาศ ใช่..ตอนมันยังไม่มีกำลัง
แต่ถ้ามันคิดซ้ำๆล่ะ เพราะอะไรที่เขาย้ำคิดย้ำทำ
เพราะความพร่องในใจ อยากได้ ให้คนอื่นเข้าใจ
เรียกร้องทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง
เรียกร้องเอาจากคนอื่น ทำไมมันถึงเป็นอย่างนั้น
เพราะเขาไม่สร้างคุณค่าตัวเองขึ้นมา
.
ในเมื่อมันเป็นวิบาก เป็นผลแล้ว
การแก้ เพราะอารมณ์เนี่ย มันเนื่อง มันสืบเนื่อง
มันต่อเนื่อง มันสะสมกันเป็นกำลังที่ใหญ่ละ
แก้ได้ไหม? แก้ได้..ถ้าเราฝึกจริงๆ
ถ้าเราอยากหายหรือ อยากแก้ในสิ่งๆนั้นจริงๆ
ถ้าเราเห็นโทษของมันจริงๆ.. .
.
ในการใช้ชีวิตประจำวันเนี่ย มีส่วนมากนะ
เหมือนอารมณ์..เราไปบังคับให้มันหยุดไม่ได้
เราไปควบคุมมันไม่ได้ เราต้องเปลี่ยนสถานที่
เราต้องไปอยู่ ในสิ่งที่แบบ..
.
สังเกตไหม? ห้องทึบ ห้องคนเดียว
“ความคิดฟุ้งเลยนะ”
.
กลับกันทีนี้..เราไปนั่ง มองออกไปกว้างๆ
สีเขียว ธรรมชาติ มีภูเขา มีทะเล
ทำไมความคิดแทบไม่มีเลย...
กลับเป็นความรู้สึกตัวทรงอยู่ เราเคยสังเกตไหม?
ธรรมชาติมันให้อะไรเราเยอะนะ
.
แล้วคนที่ชอบเป็นโรคอย่างเงี้ย จะชอบขังตัวเอง
เพราะอะไร.. เพราะจิตมันย้ำคิด “มันขัง”
ขังมากๆ มันก็เน่า.. .
.
ถาม:
แสดงว่าที่เราเข้าป่า พลังงานตรงนั้นมันช่วย?
ตอบ:
มันผ่อนคลายโดยอัติโนมัติเลย..
สังเกตไหม? ทำไมเราต้องไปเที่ยว ไปนั่นไปนี่
แต่พอเราหมายทีนี้..
มันอยาก ต้องการอารมณ์นี้เยอะๆเยอะๆ
ทีนี้..มันไม่ได้ไปธรรมชาติเพื่อเรียนรู้
มันไปเพื่อที่จะ เ ก็ บ กั ก มันมีเหตุที่ซ้อนไปอีก
เลยต้องมี“สติ”ตัวเดียวเลย ไม่งั้นมันจะซ้อนกันไว้หมด
อะไรก็ตามที่มันวาง แล้วมันหมาย
มันจะมี“อัตตา”ซ้อนๆๆไว้เลย..
.
ถาม:
แล้วการอยู่กับมัน มันมีทางจะหายมั้ย?
ตอบ:
หายได้ ถ้าฝึก มีหลายเคสนะ ที่มาฝึกแล้วหาย
หายเลย..จากที่จะฆ่าตัวตาย
.
เริ่มรู้จักให้ หนูให้ไปอยู่อนาคอนด้า(โรงปานะ)
ให้เขาให้ไปเรียนรู้ ที่จะเป็น “ ผู้ ใ ห้ ”
การเป็นผู้ให้ตรงนี้ไม่ได้เกี่ยวกับวัตถุนะ
พาเขาทำ แล้วเห็นคุณค่า ในสิ่งที่เขาทำ
.
ให้เขารู้จักเอาของไปให้คนอื่น
ให้เขาเห็นเวลาคนอื่นได้รับของ ความรู้สึกเป็นยังไง
ให้เขาเห็นคุณค่า เวลาเขาได้เป็นผู้ให้..เขาดีใจไหม
ถ้าจิตมันเริ่มเห็นคุณค่าของตรงเนี้ย ..
ไอ้อาการตัวนี้จะค่อยๆ บ ร ร เ ท า ลง
.
แต่ที่มันทุกข์ ย้ำคิดย้ำทำเนี่ย ..
เพราะมันไม่รู้จักให้ใคร มันเห็นแก่ตัว
มันเลยมีแต่เรียกร้องเอา โดยการคิดกลับไปกลับมา
.
ไม่ได้ทุกข์เพราะ อย่างอื่นเลยนะ
ทุกข์เพราะ“ความคิด” แล้วก็วังวนตัวนี้ไม่ได้
มันก็เป็นอารมณ์ โดยที่เราไม่รู้เลยทีนี้
เป็นพายุใหญ่ละ .. .
.
แค่มันสงบลง รอบข้างสงบ
แต่แค่มันมีกำลัง.. รอบข้างก็ปั่นป่วนหมด
กลับกันทีเนี้ย การปฏิบัติ ถ้าเราทุกคนรักษาตัวเอง
ต่างคนต่างรักษาตัวเอง ปัญหามันเลยไม่มี
แต่ประเด็นคือ การปฏิบัติปุ๊บ พอเริ่มเห็นว่าดี
ไปมัวเมตตาแต่คนอื่น อยากให้คนอื่นดี
ถึงพูดอยู่ตลอดว่า..อะไรที่เราเห็นว่าดี เราไม่อยากดีเหรอ?
.
เราทำเองนะ ง่ายกว่า ฝึกหัดตัวเอง
คนทั้งโลกจะเป็นอะไรไม่ได้เกี่ยวกับเรานะ
เขาจะเป็นพระอรหันต์ เขาจะเป็นคนไม่ดี
เขาจะเป็นอะไรก็ตามไม่ได้เกี่ยวกับเราเลย
.
ประเด็นคือ.. เราเป็นอะไร แล้วเราได้เรียนรู้อะไรจากเขา
“การกระทำที่ไม่ดีของคนอื่น เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับเรา”
เพื่อที่จะให้เราละสิ่งๆนั้น โดยที่เราไม่ต้องลงทุนทำเลย
แต่ส่วนใหญ่เราไม่มีสติเห็นมีนี่สิ ..
.
สิ่งที่เราควรคำนึงถึงตลอดเวลา คือจิตใจเราเอง
ควรรู้อยู่ตลอดเวลา คือใจเราเอง
อย่าพยายามไปรักษาสิ่งอื่น เพราะสิ่งอื่นไม่มีทางเที่ยง
.
เอาความรู้สึกไปฝากไว้กับใคร
ความผิดหวังเกิดขึ้นทันที.. .
เพราะอะไร เพราะเรา“หวัง”
อะไรที่ไม่เป็นไปตามความหวังของเรา
“เ ร า จ ะ ทุ ก ข์”
.
สู้ดีอยู่แบบมีสติรู้ ไม่ต้องหวัง
รู้ตามเป็นจริงลงไป ลงในปัจจุบันให้ได้
มีอะไรเกิดขึ้นก็รู้ ไม่พอใจก็รู้ รักก็รู้ เกลียดก็รู้
แต่ไม่เข้าไปรัก ไม่เข้าไปเกลียดกับมัน
เห็นมัน..เห็นอนุสัย เห็นการทำงาน เห็นมันถี่เข้าๆ
มันแยกธาตุ แยกขันธ์ แยกออกจากกัน
เดี๋ยวมันก็พ้นออกจากกัน.. .
.
(บทความถอดจากไลฟ์สด #แม่ชีเจิ้น ค่ำวันที่ 15 ก.ค. 66)
#วัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์
แม่ชีเจิ้น
วัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์
แม่ชีเจิ้น แม่ชีที่มีประสบการณ์การภาวนามาอย่างโชกโชน ด้วยคำสอนที่เรียบง่าย แต่แทงลึกไปถึงก้นบึ้งของหัวใจ
แม่ชีเจิ้น
วัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์
แม่ชีเจิ้น แม่ชีที่มีประสบการณ์การภาวนามาอย่างโชกโชน ด้วยคำสอนที่เรียบง่าย แต่แทงลึกไปถึงก้นบึ้งของหัวใจ
แม่ชีเจิ้น
วัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์
แม่ชีเจิ้น แม่ชีที่มีประสบการณ์การภาวนามาอย่างโชกโชน ด้วยคำสอนที่เรียบง่าย แต่แทงลึกไปถึงก้นบึ้งของหัวใจ
แม่ชีเจิ้น
วัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์
แม่ชีเจิ้น แม่ชีที่มีประสบการณ์การภาวนามาอย่างโชกโชน ด้วยคำสอนที่เรียบง่าย แต่แทงลึกไปถึงก้นบึ้งของหัวใจ
ธรรมมะจากผู้บรรยายเดียวกัน
แม่ชีเจิ้น
ที่สุดของศีลคือ?
บทบรรยาย
แม่ชีเจิ้น
ที่สุดของศีลคือ?
บทบรรยาย
แม่ชีเจิ้น
ที่สุดของศีลคือ?
บทบรรยาย
แม่ชีเจิ้น
นั่นแหละ ก ร ร ม
ข้อธรรมคําสอน
แม่ชีเจิ้น
นั่นแหละ ก ร ร ม
ข้อธรรมคําสอน
แม่ชีเจิ้น
นั่นแหละ ก ร ร ม
ข้อธรรมคําสอน
แม่ชีเจิ้น
เวลา..ไม่อาจรักษาทุกสิ่ง
ข้อธรรมคําสอน
แม่ชีเจิ้น
เวลา..ไม่อาจรักษาทุกสิ่ง
ข้อธรรมคําสอน
แม่ชีเจิ้น
เวลา..ไม่อาจรักษาทุกสิ่ง
ข้อธรรมคําสอน
© 2024 DhammaSinkid.com
© 2024 DhammaSinkid.com
© 2024 DhammaSinkid.com
© 2024 DhammaSinkid.com